ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินอย่างคับคั่ง หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเปิดเผยแผนกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีธนาคาร และทางการสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่ง 109.96 จุด แตะที่ 3,952.81 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,842.85-3,978.60 จุด
เดวิด โจนส์ นักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยบวกจากคณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเปิดเผยแผนกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีธนาคาร โดยจะใช้งบประมาณในการดำเนินการดังกล่าวสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังสหรัฐจะเริ่มปล่อยกู้สำหรับโครงการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนด้วยเงิน 7.5 หมื่นถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมาจากวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ของกองทุนฟื้นฟูภาคการเงินที่ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนก.พ.แตะระดับ 4.72 ล้านยูนิต สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.จะร่วงลง 0.9% แตะระดับ 4.45 ล้านยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเริ่มรวบรวมข้อมูลในปีพ.ศ.2543
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดจากข่าวรัฐบาลสหรัฐเตรียมใช้แผนขจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากธนาคารพาณิชย์ โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดพุ่ง 3.6% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดบวก 4.8% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 8.6% หุ้นธนาคารลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ดีดขึ้น 11.2% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดพุ่ง 15.7%
ส่วนหุ้นในกลุ่มประกันนั้น หุ้นโอลด์ มิวชวล ปิดพุ่ง 17.4% และหุ้นเอวิวา ปิดบวก 10.9%