นายชัชวาลย์ เอี่ยมศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวกับ “อินโฟเควสท์"เกี่ยวกับแผนการออกหุ้นกู้ของบริษัท โดยคาดว่าจะสามารถออกและเสนอขายได้ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ โดยเน้นเสนอขายให้นักลงทุนรายย่อย 70-80% ของวงเงินทั้งหมด ซึ่งวงเงินการออกหุ้นกู้และอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระหว่างการหาข้อสรุปอีกครั้ง
และเป็นครั้งแรกที่ให้สถาบันการเงินทั้ง 14 แห่ง เป็นผู้ร่วมจำหน่ายหุ้นกู้ร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ตอบรับการเข้าร่วมจำหน่ายหุ้นกู้แล้ว
ปัจจุบัน บริษัทเหลือวงเงินการออกหุ้นกู้เดิม 3.75 หมื่นล้านบาท และเตรียมจะขอวงเงินเพิ่มในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพิ่มอีก 5 หมื่นล้านบาท
"ตอนนี้เริ่มคุยกับสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิดที่แน่ๆเสนอขายในเดือน พ.ค.แน่นอน และเน้นขายผู้รายย่อย 70-80% และผลตอบแทนต่อผู้ลงทุนมั่นใจว่าไม่ผิดหวัง เพื่อจะตอบแทนนักลงทุนที่ปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากต่ำเหลือเกิน"รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี PTTEP กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร PTTEP ระบุว่าวงเงินหุ้นกู้ล็อตใหม่กำหนดไว้ราว 3 หมื่นล้านบาท
ส่วนการที่บริษัทเพิ่มวงเงินลงทุนจำนวนเกือบ 7 หมื่นล้านบาทในแผนการลงทุน 5 ปี จากเดิม 418,000 ล้านบาท เป็นประมาณ 485,166 ล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนบริษัทใช้ในการลงทุนใน บริษัท Coogee Resources Limited ประเทศออสเตรเลีย โดย PTTEP ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมด 100% ทั้งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โครงการ พีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย และยังไม่มีโครงการลงทุนเพิ่มเติมอีกในขณะนี้
“งบลงทุน 5 ปีที่เพิ่มขึ้นเป็นการปรับงบหลังมีการทุนในโครงการที่ออสเตรเลียที่ปรับเพิ่มเกือบ 7 หมื่นล้านบาท ก็ใช้ในโครงการนี้ทั้งหมด เพราะเราเข้าไปถือหุ้น 100% จึงใช้เงินลงทุนสูง แต่หลังจากนี้บริษัทยังไม่มีแผนลงทุนเพิ่มหลังเข้าลงทุนที่ออสเตรเลีย โดยเข้าซื้อหุ้นจากกลุ่ม ครอบครัวกอร์ดอน มาร์ติน แฟมมิลี่ ทั้งนี้ยอมรับว่าปีแรกยังไม่มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมากนักแต่ค่าใช้จ่ายของเราจะเพิ่มขึ้นเยอะ" นายชัชวาลย์ กล่าว
นายชัชวาลย์ กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปี 52 ยังคงขึ้นอยู่กับราคาขายปิโตรเลียม แม้ว่าจะมีการปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 240,240 บาร์เรล/วัน จากเดิมคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 234,878 บาร์เรล/วัน เพราะปริมาณที่เพิ่มขึ้นไม่แตกต่างจากเดิมที่คาดการณ์ไว้มากนัก
แต่บริษัทเชื่อว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนการเติบโตของรายได้ในปี 53 ที่จะมีปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มเป็น 299,680 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากเดิมที่คาดไว้เฉลี่ยที่ 261,398 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
อนึ่ง นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP เคยคาดว่ารายได้ของบริษัทใน 52 ไม่น่าจะเกิน 1.3 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลงมากว่าครึ่ง