นักวิเคราะห์จาก Chart Partners Group Ltd คาดการณ์ว่า ดัชนี SET ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น หลังจากดัชนีไต่ขึ้นเหนือระดับเฉลี่ย 100 วัน โดยเมื่อวานนี้ ดัชนี SET ทะยานขึ้น 2% แตะระดับ 438.17 จุด ซึ่งเคลื่อนตัวเหนือระดับเฉลี่ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ปีที่แล้วเป็นต้นมา
"เราคาดว่าดัชนี SET จะพุ่งขึ้นทดสอบระดับ 450 จุดแน่นอน การที่ดัชนีสามารถไต่ขึ้นเหนือแนวต้านเส้นสำคัญได้นั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณทางเทคนิคว่าภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยจะคึกคักขึ้น" โธมัส ชโรเดอร์ กรรมการผู้จัดการ Chart Partners Group ในกรุงเทพฯกล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก
ทั้งนี้ ชโรเดอร์คาดการณ์โดยอาศัยข้อมูลด้านราคาและวอลุ่มเป็นพื้นฐาน
ขณะที่นายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนชื่อดังและประธานบริษัท เทมเพลตัน แอสเส็ท เมเนจเมนท์ คาดการณ์ว่า ภาวะกระทิงรอบใหม่ของตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มขึ้นแล้ว และบริษัท เทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในตลาดเกิดใหม่ทุกแห่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นในบริษัทของไทย อาทิ บมจ.ปตท.(PTT), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)
"ตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะกระทิงรอบใหม่ บริษัทเทมเพลตันกำลังรุกซื้อหุ้นในบริษัทที่มีสภาพคล่องหนาแน่น หนี้สินต่ำ มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูง และให้ความสนใจในบริษัทที่มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้ดีในอนาคต" โมเบียส วัย 72 ปีกล่าวทางสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก
นอกจากนี้ โมเบียสกล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายจะช่วยกระตุ้นรายได้และอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยถึง 1.25 พันล้านบาท หรือ 35.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.เป็นต้นมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน