(เพิ่มเติม) "เจมาร์ท"คาดเข้าเทรด ก.ค.ไม่ซ้ำรอยTPOLY,เข้าบริหาร IT Junction ใน BIGC

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 24, 2009 12:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท คาดว่า บริษัทจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในช่วงเดือน ก.ค. 52 หลังจากเสนอขายหุ้น IPO ได้ในช่วงไตรมาส 2/52 โดยยังให้ บล.เอเซียพลัส (ASP) เป็นที่ปรึกษา และเชื่อว่าจะจำหน่ายหุ้น IPO ได้หมดทั้งจำนวน 75 ล้านหุ้น จะแบ่งกระจายให้ผู้มีอุปการะคุณและพนักงาน 15 ล้านหุ้นและอีก 60 ล้านหุ้นกระจายให้ผู้ลงทุนในตลาด ซึ่งเงินที่ได้รับจะนำไปขยายการลงทุน ทั้งในส่วนธุรกิจมือถือ ธุรกิจการบริหารพอร์ตสินเชื่อ และการบริหารพื้นที่ที่เกี่ยวกับการขายมือถือ

และมั่นใจว่าการเข้าเทรดจะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนกรณีบมจ.ไทยโพลีคอนส์ (TPOLY) เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เพิ่มความเข้มงวดสำหรับที่ปรึกษาทางการเงิน

ในวันนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC)เปิดศูนย์มือถือภายใต้ชื่อ IT Junction ในสาขาบิ๊กซี 25 แห่งทั่วประเทศ มีขนาดพื้นที่รวม 6,000 ตารางเมตร และมีดีลเลอร์กว่า 1,000 ราย นับเป็นบริษัทที่ได้เข้าบริหารพื้นที่มากเป็นอันดับหนึ่งของบิ๊กซีในปัจจุบัน

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือภายใน IT Junction ประมาณ 80,000-120,000 เครื่อง/เดือน หรือคิดเป็น 10-15% ของมูลค่าตลาดรวมโทรศัพท์มือถือทั้งหมด ซึ่งช่วงแรกร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ส่วนแผนในอนาคตเตรียมที่จะขยายไลน์สินค้า โดยจะเริ่มนำสินค้าคอมพิวเตอร์เข้ามาวางจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ต่างๆ ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป

"แผนในอนาคตนอกจากจะมีการขยายสินค้าคอมพิวเตอร์เพิ่มแล้ว ทางเจมาร์ทเตรียมที่จะขยายพื้นที่ให้บริการ IT Junction ไปยังบิ๊กซีสาขาอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดมาตรฐานที่สูงขึ้นต่อไป" นายอดิศักดิ์ กล่าว

นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน บริษัทมีพื้นที่ในการบริหาร 29 แห่ง หลังได้สิทธิในการบริหารที่ IT Junction เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมียอดขายมือถือเติบโตขึ้น โดยคาดว่าจะผลักดันยอดขายรวมของบริษัทให้เป็นกว่า 1 ล้านเครื่องในปีนี้ จากตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 9 ล้านเครื่อง มูลค่าตลาดประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่องลดลงอยู่ที่ประมาณ 3 พันบาท แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่องของเจมาร์ทยังสูงกว่า 5 พันบาท ถือว่าดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม น่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัทด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เกี่ยวกับผลประกอบการไม่สามารถเปิดเผยได้มากนัก เนื่องจากบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.ไปแล้ว แต่ผลประกอบการ 3 เดือนแรกแม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอ บริษัทก็ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีโปรโมชั่นที่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเช็ค 2 พันบาท ทางเจมาร์ทพร้อมรับแลกเช็ค แต่คงไม่มีโปรโมชั่นอุดหนุนผู้ใช้ เนื่อจากมองว่ารัฐบาลไมได้ต้องการให้นำเงินมาใช้ในเรื่องของอุปกรณ์มือถือ คงเน้นไปที่การอุปโภคบริโภคมากกว่า ส่วนเจมาร์ทเองก็ทำโปรโมชั่นต่อเนื่องอยู่แล้ว

ในส่วนธุรกิจบริหารพอร์ตสินเชื่อ ปีนี้เจมาร์ทคงต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ในส่วนของการซื้อหนี้มาบริหาร จากเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 4 พันล้านบาท แต่ในส่วนธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์น่าจะมีการลงทุนเพียง 150-200 ล้านบาท โดยการนำแบรนด์ jPhone เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ