ทนายความในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้นในตระกูล"อมาตยกุล"ที่ได้รับมรดกใบหุ้นบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) เตรียมยื่นฟ้องแพ่งผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีใบหุ้นปลอมจากที่ได้รับความเสียหายกว่า 222 ล้านบาท หลังจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 51 ไม่สนับสนุนให้พิจารณาวาระเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบห้นปลอมในวันนี้
ทั้งนี้ ทนายความฯ ได้เสนอบรรจุวาระประชุมดังกล่าวในวาระเพิ่มเติมเพื่อสอบถามกรณีใบหุ้นปลอมแล้วเป็นวาระที่ 10 เพื่อขอให้บริษัทพิจารณาชดใช้และเยียวยาให้กับผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายจากกรณีที่ถูกลักและปลอมใบหุ้น ซึ่งจะต้องได้รับเสียงสนับสนุน 1 ใน 3 ของที่ประชุมผู้ถือหุ้น แต่ปรากฎว่าไม่ได้รับเสียงสนับสนุนในวาระดังกล่าว
นายพิบูลย์ศักดิ์ สุขพงษ์ ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าผู้ถือหุ้นจะไม่เห็นด้วยกกับการเพิ่มวาระในครั้งนี้ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายที่คดีนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวนพิจารณาคดีทางอาญา อย่างไรก็ตาม ทางผู้เสียหายจะเรียกร้องค่าชดเชยตามสัดส่วนความรับผิดชอบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
สำหรับค่าเสียหายคิดจากมูลค่าจากการขายหุ้นของนายประกันครั้งแรกในปี 2547 ประมาณ 82 ล้านบาท และปี 2549 ประมาณ 81 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยที่ผิดนัดชำระอีก 7.5% ต่อปี ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คาดว่าจะมีหลายฝ่าย ทั้งบริษัท นายทะเบียน บริษัทหลักทรัพย์ เป็นต้น ก็จะต้องมีผู้มาร่วมรับผิดชอบในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริษัท ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม กล่าวว่า เห็นใจผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้ถือหุ้นทุกคนาถือเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ตามหลัก Good Governance แล้ว การรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นควรจะให้คดีถึงที่สุดก่อน ซึ่งทางบริษัทก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าพนักงาน และที่ผ่านมาก็ร่วมมือเป็นอย่างดี บริษัทยังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องและป้องกันทุกเรื่องที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อผู้ถือหุ้น
อนึ่ง การประชุมฯ ที่เริ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมและรับมอบฉันทะ 1,499 ราย ประมาณ 751 ล้านหุ้น ซึ่งในวาระแรก ๆ ผู้ถือหุ้นมีการซักถามข้อสงสัยเรื่องงบกำไรขาดทุน เนื่องจากในไตรมาส 4/51 SCC มีผลขาดทุนถึง 5 พันล้านบาท จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ตอบคำถามและชี้แจงกับผู้ถือหุ้นว่า สถานการณ์ขาดทุนของบริษัทเป็นไปตามภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาส 4/51 ทำให้บริษัทประสบภาวะ stock loss โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่ขาดทุนกว่า 4 พันล้านบาท
และในส่วนของผลประกอบการปีนี้ นายกานต์ได้กล่าวกับผู้ถือหุ้นว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด และมั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไร