ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มี.ค.) โดยตลาดปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มประกันและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากบริษัท เลกัล แอนด์ เจนเนอรัล กรุ๊ป ประกาศลดการจ่ายเงินปันผล และนักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้นแองโกล อเมริกัน และริโอทินโต อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 11.21 จุด หรือ 0.29 % แตะที่ 3,900.25 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,852.96-3,939.16 จุด
ริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จาก Hargreaves Lansdown Plc กล่าวว่า หุ้นกลุ่มประกันถูกเทขายอย่างหนักหลังจากบริษัท เลกัล แอนด์ เจนเนอรัล กรุ๊ป ประกาศลดการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนอย่างหนัก ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถูกกระหน่ำขายหลังจากนักวิเคราะห์ของแบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปรับลดอันดับความน่าลงทุนและแนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นริโอทินโต และแองโกล อเมริกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 3.4% แตะที่ 1.656 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสถิติที่พุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.พุ่งขึ้น 4.7% แตะระดับ 337,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ หุ้นเลกัล แอนด์ เจนเนอรัลปิดร่วง 7.2% หุ้นเอวิดวาปิดลบ 4.5% และหุ้นสแตนดาร์ด ไลฟ์ ลดลง 3.5% ส่วนหุ้นแองโกล อเมริกันปิดร่วง 4.4% หุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 1%