SIMAT หวังแค่ทำรายได้-กำไรเท่าปี 51/เชื่อบ.ย่อย-บ.รวมทุนอนาคตไปได้สวย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 27, 2009 12:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไซแมท เทคโนโลยี(SIMAT)ขอตั้งเป้าแค่พยายามรักษาผลประกอบการในปี 52 ให้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อน ท่ามกลางปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบไปรอบด้าน แต่ยังเชื่อมั่นธุรกิจในเครือไปได้สวย "ไซแมท เลเบล"มีแววคุ้มทุนภายในปลายปีนี้และเริ่มมีกำไรในปี 53 ส่วนบริษัทร่วมทุนใหม่"ไซแมท อี-เทค"จะเริ่มมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/52

แหล่งข่าวจาก SIMAT กล่าวว่า บริษัทหวังว่าจะทำยอดขาย รายได้ และกำไรให้ใกล้เคียงกับปี 51 ที่มียอดขาย-รายได้ 240 ล้านบาท กำไรสุทธิ 16.59 ล้านบาท โดยมองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันการรักษารายได้กำไรให้ทรงตัวอยู่ได้ถือว่าน่าพอใจแล้ว แม้จะมีแนวโน้มว่าโครงสร้างในปี 52 น่าจะรับรู้รายได้จากบริษัท ไซแมท เลเบล จำกัด มากขึ้นเกิน 5%

"ปีนี้เราจะพยายามให้ได้เท่าเดิม ลดต้นทุน หนี้เราก็ไม่มี ตอนนี้ D/E ที่ 0.4 ลดลงจาก 0.5 เมื่อก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์"แหล่งข่าว กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

ปี 51 รายได้รวมของ SIMAT มาจากธุรกิจในประเทศเกือบ 90% โดยเป็นจากธุรกิจของ บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT)80-90% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากบริษัทย่อยรวมกัน คือ บริษัท ไซแมท ซอฟท์ และ บริษัท ไซแมท เลเบล จำกัด

*คาดภายในปี 52 ไซแมท เลเบลคุ้มทุน เริ่มกำไรต้นปี 53

แหล่งข่าว มั่นใจว่า ไซแมท เลเบลจะคุ้มทุนในปลายปี 52 จากที่ในปี 51 มียอดขายประมาณ 2 ล้านบาท แต่ขาดทุน 5 ล้านบาท โดยขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามามากทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามา 3-4 ราย เช่น บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์(BIGC) เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์"สาโท" นอกจากนี้ยังมีลูกค้าในธุรกิจน้ำมันเครื่องด้วย และยังมีแนวโน้มที่มีออร์เดอร์เข้ามาอีกอย่างต่อเนื่อง

"ปีที่แล้วลูกค้าหลักๆ มีแค่เอสเอฟซีเนม่า แต่ปีนี้มีทั้งบิ๊กซี สาโท น้ำมัน และคาดว่าน่าจะมีทยอยเข้ามาอีกเรื่อยๆ อย่างบิ๊กซีเราได้งานพิมพ์ฉลากยี่ห้อ สัญญา 6 เดือน มี.ค.-ส.ค.52) มูลค่า 8 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของบิ๊กซี จะมีการประมูลงานทุกๆ 6 เดือน"แหล่งข่าว กล่าว

ส่วนอีก 2 รายไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งซื้อที่เข้ามาเรื่อยๆ และต่อเนื่อง ไม่ได้เป็น Contract ดังนั้นปีนี้ไซแมท เลเบลน่าจะคุ้มทุนภายในปีนี้ และเริ่มมีกำไรต้นปี 53"แหล่งข่าว กล่าว

พร้อมทั้งระบุว่า นี่คือเหตุผลที่ทำให้บริษัทต้องรีบเพิ่มทุนในบริษัท ไซแมท เลเบล เพื่อนำเงินไปซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มอีก 1 ตัว มูลค่า 8 ล้านบาท คาดว่าจะติดตั้งเดือนเมษานี้ ซึ่งจะทำให้ไซแมท เลเบลมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 3 ล้านบาท จาก 1 ล้านบาทในปัจจุบันและจะมีส่วนช่วยทำให้ไซแมท เลเบลมีผลประกอบการดีขึ้นอย่างชัดเจน

ส่วนที่ทางผู้ร่วมทุน คือ Label Network ไม่สามารถใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาได้ เนื่องจากบริษัทแม่ คือ GRAND-FLO SOLUTION BERHAD ติดขัดปัญหาสภาพคล่อง ส่วนหนึ่งเพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพเศรษฐกิจ และอีกสาเหตุหนึ่งคือเพิ่งจะไปเทคโอเวอร์บริษัททำเครื่องคอมพิวเตอร์มือถือที่ใช้ระบบาร์โค้ทที่ฮ่องกงเพื่อขยายงาน ทำให้มีเงินไม่พอที่จะมาลงทุนเพิ่ม

และจากการที่บริษัทใส่เงินเพิ่มทุนในไซแมท เลเบลคราวนี้ มีผลทำให้บริษัทถือหุ้นในไซแมท เลเบล เพิ่มเป็น 80% จากเดิม 60%

แหล่งข่าว กล่าวว่า ในอนาคตหาก GRAND-FLO SOLUTION BERHAD และ Label Network พลิกฟื้นตัวได้ ก็สามารถกลับมาถือหุ้นในไซแมท เลเบลเพิ่มขึ้นได้ด้วย 2 วิธี คือ ซื้อหุ้น SIMAT ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อถือเพิ่มจากที่ถืออยู่ 36.75% และรอรับรู้รายได้และผลกำไรตามสัดส่วนหุ้น หรือวิธีที่ 2 คือ ใส่เงินเพิ่มทุนในไซแมท เลเบล เนื่องจากปลายปี 52 ไซแมท เลเบล อาจจะมีการซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมอีก

*คาดไซแมท อี-เทค เริ่มมีรายได้ Q2/52

แหล่งข่าว กล่าวถึงบริษัท ไซแท อี-เทค ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ที่ SIMAT ถือหุ้น 51% และ บริษัท E-Tech IT Sdn. Bhd.จากประเทศมาเลเซียถือหุ้น 49% ว่า น่าจะเริ่มสร้างรายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/52

ทั้งนี้ บริษัทใหม่ดังกล่าว ตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจโดยจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย สำหรับอุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟท์แวร์ สำหรับระบบ Point of Sales หรือ ระบบแคชเชียร์หน้าร้านของห้างค้าปลีก ซึ่งปัจจุบัน SIMAT มีฐานลูกค้ากลุ่มนี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ผู้ร่วมทุน คือ E-Tech IT Sdn. Bhd. มีไลเซ่นส์ขายเครื่องจาก IBM น่าจะมาเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่จะมาต่อยอดให้เราได้

"ตอนนี้เพิ่งจัดตั้งบริษัทและทางเราได้คุยกับทาง IBM และฮิวเล็ต แพคการ์ดไว้ ตอนนี้รอทำตลาดได้เลย เพราะทางผู้ร่วมทุนเค้ามีไลเซ่นส์ขายเครื่องของ IBM อยู่แล้ว ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ หาตลาดได้ หาลูกค้าได้เราก็พร้อมที่จะสั่งซื้อ....

ถือเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องอยู่แล้ว เพราะของเราเป็นพวกนับสต็อก นับสินค้า เรามีฐานลูกค้าจากทาง 7-11, เทสโก้ โลตัส ส่วนเครื่อง Point of Sales ใช้กันเยอะในค้าปลีก แบงก์ เราก็อยากแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปกลุ่มนี้บ้าง ซึ่งมั่นใจว่าเราพอจะทำได้เพราะมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว"แหล่งข่าว กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ