นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการใหญ่ โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ.การบินไทย(THAI)คาดว่า กำไรจากการให้บริการเที่ยวบินในประเทศจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 100 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีกำไรปีละ 248.79 ล้านบาท หลังบริษัทย้ายเที่ยวบินในประเทศจากสนามบินดอนเมืองมาที่สุวรรณภูมิ ขณะที่การให้บริการผู้โดยสารในประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมีผลขาดทุนปีละ 29.6 ล้านบาท
การย้ายเที่ยวบินในประเทศมาทำการบินที่สุวรรณภูมิจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารต่อเครื่องของสายการบินไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 20% โดยพบว่ามียอดการจองตั๋วในวันที่ 29 มี.ค.มีผู้โดยสารในประเทศใช้บริการ 13,807 คน ขณะที่มีค่าใช้จ่ายลดลงจากการเช่าพื้นที่ในดอนเมืองและค่าใช้จ่ายบุคลากรเดือนละ 2 ล้านบาท
"ในเร็วๆนี้ การบินไทยจะยกเลิกจุดเช็คอินที่สถานีรถไฟฟ้าลาดพร้าว เพราะที่ผ่านมามีผู้ใช้บริการเฉลี่ยเที่ยวบินละ 1.5 คน และการบินไทยจะเพิ่มจุดเช็คอินในพื้นที่สถานีมักกะสันคอมเพล็กซ์ หลังจากโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงค์ เปิดให้บริการในเดือนส.ค.นี้ โดยในระยะแรกจะให้บริการเช็คอินเฉพาะผู้โดยสาร และในช่วงปลายปีจะให้บริการเช็คอินผู้โดยสารพร้อมสัมภาระได้"นายโชคชัย กล่าว
ด้านพล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการ กรรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า การบินไทยเพิ่มเคาน์เตอร์เช็คอินผู้โดยสารในประเทศที่สุวรรณภูมิ เป็น 36 เคาน์เตอร์ จากเดิม 12 เคาน์เตอร์ เพิ่มจำนวนเครื่องให้บริการเช็คอินด้วยตนเองอีก 13 เครื่อง และขยายพื้นที่ห้องรับรองพิเศษเป็น 934 ตารางเมตร จากเดิม 650 ตารางเมตร รวมทั้งจัดรถไฟฟ้าและเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่บริการภาคพื้นดินในอาคารผู้โดยสารในทุกจุดบริการ
สำหรับเที่ยวบินสุดท้ายที่จะออกจากดอนเมืองในวันที่ 28 มี.ค.52 คือเที่ยวบินทีจี 1124 ดอนเมือง-เชียงใหม่ ออกเดินทางเวลา 22.15 น. ส่วนเที่ยวบินสุดท้ายที่จะลงที่ดอนเมืองคือเที่ยวบินทีจี 1047 ขอนแก่น-ดอนเมือง กำหนดถึงดอนเมืองเวลา 20.40 น.ส่วนเที่ยวบินแรกที่จะออกจากสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มี.ค.2552 คือ เที่ยวบินทีจี 020 สุวรรณภูมิ-อุบลราชธานี ออกเดินทางเวลา 06.00 น.