ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลง ตามตลาดตปท. รับแรงกดดันจากปัญหาศก.,การเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 30, 2009 08:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่อยู่แดนลบ ทั้งดาวโจนส์และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียได้ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีความวิตกกังวลต่อประเด็นเดิมในเรื่องเศรษฐกิจทั่ว ๆ ไป

ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีความวิตกต่อประเด็นเศรษฐกิจ จากที่ตลาดคาดการณ์ว่าตัวเลขการส่งออกของงวดเดือนมีนาคมนี้ จะติดลบถึง 30% และการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐก็ออกมาต่ำกว่าเป้า จึงน่าจะเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันตลาดฯ นอกจากนี้ ปัจจัยทางด้านการเมืองก็เริ่มทวีความร้อนแรงมากขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 430 จุด แนวต้าน 445 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(27 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 7,776.18 จุด ลดลง 148.38 จุด(-1.87%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 815.94 จุด ลดลง 16.92 จุด(-2.03%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,545.20 จุด ลดลง 41.80 จุด (-2.63%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 712.91 ล้านบาทเมื่อ 27 มี.ค.52
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 52.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.96 ดอลลาร์หรือ 3.61%
  • คลัง ชี้ส่งออก มี.ค. มีโอกาสติดลบ 30% หลังจากตัวเลขเบื้องต้น 2 สัปดาห์ดิ่งไปแล้ว 45% "โอฬาร "แนะแบงก์ชาติเดินแนวทางค่าเงินอ่อน 37 บาทต่อดอลลาร์ สู้วิกฤติ พร้อมจับตามองจีนเข้ายึดไอเอ็มเอฟ หลังจากการประชุม จี 20 ด้าน สบน.เผย ขณะนี้ มีวงเงินให้กู้เหลืออีกถึง 2.5 แสนล้านบาท
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบกู้เงินภายในประเทศอีก 9.4 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยรายได้ในปี 2552 ที่เก็บต่ำกว่าเป้ามาก
  • ธนาคารกรุงเทพ เผยปัญหาการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ มีผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารบ้าง เพราะประชาชนไม่มั่นใจที่จะลงทุนและบริโภค
  • แหล่งข่าวจากกรมธุรกิจพลังงาน เผยตัวเลขนำเข้าก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ของบมจ.ปตท.ใน เม.ย. อยู่ที่ 2.7 หมื่นตัน ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. อยู่ที่ 2.2 หมื่นตัน ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการใช้ในธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มสูงขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ
  • นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อนำมาใช้ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 เพื่อรักษาระดับการจ้างงานจำนวน 1.5 ล้านคนไว้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำลงมากกว่านี้ แต่จะดูแลด้วยความระมัดระวังและรอบคอบไม่ให้ส่งผลกระทบเรื่องวินัยการเงินการคลัง โดยมั่นใจแผนขยายเพดานหนี้สาธารณะชั่วคราวไปอยู่ที่ 60% ของจีดีพี ยังคงเป็นระดับที่สามารถบริหารจัดการได้
  • นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาในช่วงที่เศรษฐกิจแย่ โดยเฉพาะจากการส่งออกที่ชะลอตัวลงมาก จำเป็นต้องเร่งการใช้จ่ายในประเทศ ดังนั้น นโยบายการคลังจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกประเทศก็ใช้วิธีการกู้เงินเช่นกัน และที่ผ่านมาหนี้สาธารณะของไทยก็ไม่ได้สูงมากนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ