หุ้น CPALL ราคาวิ่งขึ้น 2.44% มาอยู่ที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.52 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 12.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 12.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 12.40 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีพีออล์(CPALL)ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 14 บาท/หุ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำไรยังเติบโต แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปี 51 ไม่มีภาระหนี้เงินกู้ระยะยาว และเงินกู้ระยะสั้น มีอยู่เพียง 168 ลบ. เมื่อเทียบส่วนทุนที่สูงถึงเกือบ 1.7 หมื่นลบ. และนโยบายซื้อหุ้นคืนของบริษัท มูลค่าไม่เกิน 4.3 พันลบ. หรือไม่เกิน 449.31 ล้านหุ้น ช่วงระยะเวลา 28 พ.ย. 51-27 พ.ค. 52 จะช่วยประคองการปรับตัวลงของราคาหุ้น ซึ่ง ณ ข้อมูล 27 มี.ค. 52 ได้เช็คข้อมูลในเว็ปไซต์ตลาดฯ ยังไม่มีจำนวนหุ้นซื้อคืนแต่อย่างไร ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากราคาหุ้นที่ยังไม่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม หากมีแรงขายและทำให้ราคาปรับลดลง ก็คาดว่าบริษัทจะเริ่มทยอยซื้อ
ทั้งนี้ คาดว่า CPALL จะเป็นบริษัทจดทะเบียนหนึ่งในไม่กี่แห่ง ที่มีกำไรเติบโตใน Q1/52 ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิประมาณ 1.14 พันลบ. เติบโต 5% จากงวดปีก่อน และเติบโตถึง 125% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่เติบโตเมื่อเทียบงวดต่องวด จากยอดขายร้าน CP7-11 ที่เติบโต 18% yoy ส่วนในงบรวมจะลดลง 16% yoy หลังไม่ได้รวมยอดขายจากโลตัสในจีนแล้ว และการเน้นขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และหมดภาระจากโลตัสในจีนช่วยให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทดีขึ้น โดยคาดว่า EBIT Margin ใน Q1/52 จะปรับสูงขึ้นอยู่ในระดับประมาณ 6% จาก 5% งวดปีก่อน ส่วนกำไรที่เติบโตสูงจากไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลักจาก ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ตามปกติที่ช่วงไตรมาส 4 เป็นช่วงที่บริษัทใช้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น จากการอัดโปรโมชั่น โดยสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายใน Q1/52 คาดว่าจะลดลงอยู่ในระดับ 23% จาก 26% ในไตรมาสก่อน
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อขอไลเซ่นส์ทำร้าน CP7-11 ในเวียดนาม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะได้ไลเซ่นส์ดังกล่าว