(เพิ่มเติม) CPN เตรียมออกหุ้นกู้ 2.5-3 พันลบ.ใน Q2/52, หาเงินกู้ระยะยาวใช้ลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 31, 2009 13:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา(CPN)เผยในไตรมาส 2/52 บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน วงเงิน 2.5-3 พันล้านบาทเพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด และปีนี้มีแผนหาเงินกู้ระยะยาวประมาณ 5.5 พันล้านบาท โดยนำส่วนหนึ่งมาใช้ลงทุนปี 52 ที่จะใช้เงิน 5.62 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนอีกส่วนหนึ่งจะมาจากกระแสดเงินสด

ทั้งนี้ ในปี 52 บริษัทมีแผนจะเปิดศูนย์การค้าอีก 2 โครงการ คือ เซ็นทรัลพลาซ่า ชลบุรี ในเดือน พ.ค. และ สาขาที่ จ.ขอนแก่น ในเดือน ธ.ค.ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน หลังได้เปิดเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ เดือน พ.ย.51 ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่า 91% และเปิดเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา ในเดือน ม.ค.52 มีอัตราการเช่าพื้นที่ 75%

ส่วนปี 53 คาดว่าจะใช้งบ 6 พันล้านบาท เปิด 8 สาขาใหม่ และอีกอาคารสำนักงานอีก 1 แห่ง

นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี CPN กล่าวว่า ในไตรมาส 1/52 แนวโน้มรายได้ยังเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งปีรายได้น่าจะเติบโต 25% จากการเปิดสาขาใหม่ที่พัทยาและแจ้งวัฒนะ และปีนี้มีแผนเปิดอีก 2 สาขาคือที่ จ.ชลบุรี และ จ.ขอนแก่น รวมทั้งรายได้จากศูนย์การค้าแห่งเดิมที่จะเติบโตจะช่วยให้ทั้งปีไปสู่เป้าหมายเติบโต 25%

"ไตรมาส 1 เติบโตไม่ถึง 25% เพราะที่พัทยา บีช เพิ่งเปิดได้แค่ 2 เดือน แต่ทั้งปีเรายังคงเป้าการเติบโตที่ 25% บนพื้นฐานจีดีพีที่ติดลบ 3% แต่ยอมรับว่าเรามี Worst Case ที่ทำให้หากสถานการณ์มันแย่กว่านี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้"นายนริศ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปี 52 บริษัทยังมีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยปีนี้งบลงทุนที่ 5.6 พันล้านบาทจะเน้นใช้เงินจาก cash flow ที่มีประมาณ 4 พันล้านบาท และกู้เงินระยะยาวจากสถาบันการเงินที่มีวงเงินอยู่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้ D/E เพิ่มขึ้นสูงเป็น 1 เท่า จากสิ้นปี 51 อยู่ที่ 0.8 เท่า

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาการระดมทุนรูปแบบอื่นๆ โดยที่มีความเป็นไปได้สูงสุด คือ การขยายกองทุน CPNRF แต่ต้องรอตลาดเอื้ออำนวย แต่จากการสำรวจความต้องการลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เชื่อว่ายังมีโอกาสสำหรับการขายหุ้นกู้ แต่ต้องดูระยะหลังจาก 3-4 เดือนนี้ไปก่อน ส่วนแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เซ็นทรัล ออฟฟิศเซส คงชะลอออกไปไม่มีกำหนด อีกทั้งแผนการที่เคยมองแนวทางการเพิ่มทุนก็ยกเลิกไป

นายนริศ กล่าวยอมรับว่า บริษัทได้มีการศึกษาแนวทางทางการเงินอื่นๆ ที่จะไม่กระทบต่องบกำไรขาดทุน แต่จะกระทบต่อ cash flow มาแทน นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวทางการลดต้นทุน โดยการประหยัดค่าไฟคาดว่าจะประหยัดได้กว่าปีละ 100 ล้านบาท และมีการตัดงบลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปประมาณ 300-400 ล้านบาท

แต่สำหรับแผนปีนี้ที่สำคัญ คือ การปรับปรุงศูนย์การค้าที่ลาดพร้าว หลังได้ต่อสัญญา เนื่องจากทั้งศูนย์การค้าและสำนักงานถือว่าอยู่ในสภาพที่เก่ามาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะเริ่มปรับปรุงส่วนแรกได้ในช่วงไตรมาส 4/52 และจะมีการปิดพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนในช่วงปลายไตรมาส 1/53 ซึ่งจะทยอยปรับปรุงเพื่อไม่ใมห้กระทบต่อผู้เช่าและผู้มาใช้บริการ คาดใช้เวลา 18 เดือนในการปรับปรุง

ส่วนแผนการลงทุนในต่างประเทศ ยอมรับว่าจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจะชะลอแผนการศึกษาในเวียดนามไปไม่มีกำหนด ขณะที่อินเดียมีการเซ็น MOU กันแล้ว และเชื่อว่าคงไม่มีผลกระทบ การลงทุนที่จีนยังถือว่าเป็นแหล่งที่บริษัทให้ความสนใจ และยอมรับว่ามีการพูดคุยอยู่หลายแห่ง เนื่องจากผู้ลงทุนในประเทศต้องการหาพันธมิตรเพื่อไปร่วมลงทุน แต่ก็จะต้องรอบคอบในการเข้าไปลงทุนเพราะบริษัทเองก็ถือว่าเข้าสู่ภาวะตึงตัว

ขณะที่ทางด้านการเข้าไปเทคโอเวอร์กิจการในประเทศ ยังไม่ข้อสรุป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ