นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.บิวเดอสมาร์ท(BSM)ผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและอาคาร เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปีนี้ยอดขายของบริษัทจะเติบโตขึ้นจากการบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น และเดินหน้าขยายตลาดต่างจังหวัด โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% มาที่ 500 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท
"ยอดขายปีนี้คาดว่าจะโต 20% หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะตลาดในประเทศก็อาจจะชะลอตัวลงแต่เราก็อาจจะเอาตลาดในต่างจังหวัดอย่างหัวหินและสมุยเข้ามาเสริมมากขึ้นและตลาดส่งออก พยายามจะให้รักษาการเติบโตเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้ คิดว่าน่าจะได้"
ขณะนี้บริษัทมีความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บมจ.ร้อกเวิธ(ROCK) ซึ่งจะเป็นตัวแทนในการโปรโมตสินค้าในประเทศที่ ROCK มีเครือข่ายอยู่ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง แต่เราจะเพิ่งจะเริ่มในแง่ของวอลุ่มก็ต้องดูกันอีกระยะหนึ่ง โดยสัญญาที่ตกลงกับ ROCK เป็นสัญญาระยะ 3 ปี และอาจจะมีการต่อสัญญาเพิ่มเติม หลังจากประเมินผลสำเร็จด้านการทำตลาด
อนึ่ง ROCK มีเครือข่ายประมาณ 30 ประเทศทั่วโลก และหลายประเทศอยู่ในตะวันออกกลาง
นอกจากนั้น บริษัทยังได้ขยายตลาดใหม่ โดยเริ่มส่งออกสินค้าไปให้กับลูกค้าในอินเดียตั้งแต่ไตรมาส 1/52 โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายใน 3 เมืองใหญ่ โดยตัวแทนในกรุงนิวเดลี มีประสิทธิภาพค่อนข้างมาก
นายสัญชัย กล่าวว่า การบุกตลาดต่างประเทศใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม สามารถช่วยชดเชยตลาดในประเทศที่หดตัวลง แต่บริษัทก็ยังเดินหน้าขยายงานในประเทศ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวทางภาคใต้ อย่าง ภูเก็ต เกาะสมุย และหัวหิน โดยที่ภูเก็ตมีโรงงานใหม่ ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตประกอบและติดตั้งประตู-หน้าต่างป้อนให้กับตลาดในประเทศและต่างประเทศ ขณะนี้เริ่มรับงานใหม่เข้ามาแล้ว
ส่วนที่หัวหิน กำลังอยู่ในระหว่างตระเตรียมสำนักงานสาขาและโชว์รูม คาดว่าจะเปิดทำการได้ในราวเดือน พ.ค.นี้
"ประตูหน้าต่างเราได้โครงการที่จ.ภูเก็ตแล้ว ตอนนี้เริ่มทยอยที่ประกอบยังไม่ได้รับรู้รายได้น่าจะเป็นไตรมาส 2/52 จะเริ่มรับรู้รายได้ได้" นายสัญชัย กล่าว
*คาดยอดขาย Q1 ยังดี ส่วน Q2 ขอประเมินก่อนเหตุมีวันหยุด-การเมืองไม่แน่นอน
นายสัญชัย คาดว่า ยอดขายและกำไรในช่วงไตรมาส 1/52 น่าจะออกมาดี โดยสัดส่วนการขายในประเทศก็ยังพอมีออร์เดอร์ไม่ได้ตกไปจากที่ผ่านมา แต่ไตรมาส 2/52 ยังต้องดูความชัดเจนอีกครั้ง เพราะมีวันหยุดสงกรานต์ และมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในกรุงเทพฯ แต่บริษัทก็จะพยายามบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น และเน้นการเพิ่มยอดขายในสาขาของเราที่สมุย หัวหิน และภูเก็ต
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในปีนี้น่าจะออกมาดีกว่าปีก่อนมาก เพราะปีที่แล้วกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทปรับเปลี่ยนมาตรฐานทางบัญชี โดยหากลูกค้ารายใดค้างชำระเกิน 6 เดือนก็ตั้งค่าเผื่อหนี้สูญ 100% แต่ไม่ได้หมายความว่าความเป็นจริงแล้วเก็บเงินไม่ได้ ประกอบกับปีที่แล้วมีอัตราภาษี 30% และต้องจ่ายภาษีในส่วนที่ตั้งสำรองด้วย แต่ปีนี้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์ โดยได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้จาก 30% ก็เป็น 20%
นอกจากนี้ หากปีนี้บริษัทกลับมาเป็นกำไรปกติก็น่าจะจ่ายเงินปันผลได้ หลังจากปีที่แล้วได้งดจ่ายปันผล เพราะบริษัทมีนโยบายว่าจะจ่ายเงินปันผลอยู่แล้ว เพียงแต่ในช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจยังไม่คงที่และกำไรก็ยังไม่มาก จึงต้องการถือเงินสดไว้ก่อน