นายกรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC)ยอมรับว่า ยอดรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/52 คงจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/51 เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ประกอบกับ ส่วนใหญ่จะเป็นการรับรู้จากโครงการแนวราบ แต่ในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาด้วย
ส่วนในด้านยอดขายช่วงไตรมาส 1/52 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 1 พันล้านบาท
จากการประเมินการขอกู้ซื้อบ้านของลูกค้าในไตรมาส 1/52 พบว่ามียอดถูกปฎิเสธคำขอสินเชื่อ(Reject)ในอัตราที่สูงถึง 50% ของยอดรับรู้ฯ ในไตรมาส 1/52 หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 258 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 51 ที่มียอด Reject เพียง 10% หรือทั้งปีคิดเป็นเม็ดเงินที่ถูกปฏิเสธ 600 ล้านบาท
"สิ่งที่น่ากังวล คือ ความเข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะต้องเร่งทำคือการเร่งสร้างยอดขายให้มาก เพื่อจะได้บาลานซ์และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะแม้แต่การกู้ตอนนี้ แบงก์มองถึงว่าทำธุรกิจประเภทไหน และมีความสามารถในการกู้ได้หรือไม่
นายกรี กล่าวต่อว่า การที่บริษัทพยายามเร่งสร้างยอดขาย รวมทั้งการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท และยังมีโครงการคอนโดฯจากปีก่อนมารับรู้รายได้ในปีนี้ จึงทำให้เชื่อว่าเป้าหมายการเติบโตของยอดรับรู้รายได้ที่ 4.2 พันล้านบาท หรือโต 5% จากปีก่อนที่ 4.4-4.5 พันล้านบาท ถือเป็นอัตราการเติบโตที่พอใจในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้
ขณะเดียวกันจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(GP)ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงปีก่อนที่ 33-34% และ อัตรากำไรสุทธิ(NP)ที่ 16%
นายกรี กล่าวว่า สำหรับแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ คงจะเห็นการทยอยเปิดในช่วงไตรมาส 2/52 และจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งสอดคล้องกับดีมานด์ที่น่าจะกลับคืนมา ดังนั้น บริษัทก็จะยังคงแผนซื้อที่ดินตามที่วางไว้ว่าจะใช้งบซื้อที่ดินประมาณ 1 พันล้านบาท
ส่วนโครงการภายใต้แบรนด์ "เอสซี คอมมูนิตี้ เพชรเกษม 81" มูลค่า 1.2 พันล้านบาทที่เปิดขายในขณะนี้นั้น มีทั้งบ้านเดี่ยวในแบรนด์ "ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด" ที่เปิดขายตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ปัจจุบันขายได้แล้ว 60% และคาดว่าจะปิดโครงการได้ในไตรมาส 3/52 นอกจากนี้ยังมีโครงการทาวโฮม ชื่อ "วิสต้า อเวนิว "ซึ่งขณะนี้มียอดขายแล้ว 35-50% คาดว่าจะสามารถปิดโครงการได้ภายในปลายปีนี้