บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ) รับสภาพผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจทำการลงทุนใหม่หายและการขยายธุรกิจหยุดชะงักยาวตลอดปี 52 โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และกุ่มปิโตรเคมีซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ใช้ที่ดินจำนวนมาก จึงตัดสินใจลดงบลงทุนเหลือครึ่งเดียว และชะลอพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเลื่อนแผนเสนอขายหุ้นกู้ในปีนี้ หลังจากปรับลดเป้ายอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมในปีนี้เหลือเพียง 500-700 ไร่ จากเดิม 1 พันไร่
นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนสัมพันธ์และวางแผน HEMRAJ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายที่ดินลดลงในอัตราเฉลี่ยทุกนิคมอุตสาหกรรม โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบว่าลูกค้าชะลอการซื้อที่ดิน โดยเฉพาะผู้ประกอบการยานยนต์และปิโตรเคมี แม้จะมีผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาบ้าง แต่คงจะไม่สามารถทดแทนได้ เพราะขนาดของที่ดินไม่มากเท่า
ดังนั้น ยอดขายในไตรมาส 1/52 จึงลดลงค่อนข้างมาก ซึ่งเชื่อว่าจะลากยาวไปถึงไตรมาส 2/52 และแม้จะคาดว่าสถานการณ์ทางด้านภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะคลี่คลายและกลับไปสู่ภาวะปกติในช่วงปลายไตรมาส 3/52-ไตรมาส 4/52 ก็ตาม แต่การลงทุนคงจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับลดเป้าหมายยอดขายที่ดินในปี 52 เหลือ 500-700 ไร่ จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1 พันไร่
ปัจจุบัน นิคมฯ ของ HEMRAJ เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมกว่า 10 กลุ่ม เช่น ยานยนต์ ปิโตรเคมี วัสดุก่อสร้าง อุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอีกหลายกลุ่มอุตฯกระจายความเสี่ยงกันไป โดยอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 โดยมีลูกค้าค่ายยานยนต์ขนาดใหญ่ คือ จีเอ็ม, ฟอร์ด, มาสด้า และ เชฟโรเล็ต
อนึ่ง ในปี 51 HEMRAJ มียอดขายที่ดินกว่า 1.6 พันไร่ มีกำไรสุทธิ 1,342 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 50 โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินปันผลและกำไรจากบริษัทร่วม 73.6 ล้านบาท
นายเผ่าพิทยา กล่าวว่า บริษัทเห็นว่าการพิจารณาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมปีนี้ต้องทำด้วยความรอบคอบ จึงได้ปรับลดเม็ดลงทุนเหลือไม่เกิน 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ใช้เงินลงทุน 4.8 พันล้านบาท และจะให้ความสำคัญในการพิจารณาลงทุนเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลเสียต่อบริษัท
พร้อมกันนั้น จะชะลอแผนลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ออกไปจากในปีนี้ รวมไปถึงแผนเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 2-3 พันล้านบาท อายุ 3-5 ปี ก็คงต้องเลื่อนออกไปก่อนจากปีนี้ จนกว่าภาวะตลาดจะกลับมาในทิศทางที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการชะลอการลงทุนในด้านต่าง ๆ จะไม่ส่งผลต่อสภาพคล่องในอนาคตแน่นอน
"ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัวคงไม่มีใครบอกหรอกว่าไม่ได้รับผลกระทบรวมทั้ง HEMRAJ เองยอดขายการซื้อที่ดินลดลงในอัตราเฉลี่ยทุกนิคมฯ ...ปีนี้ถือว่าแย่การระมัดระวัง การรอบคอบจะเป็นสิ่งที่ดีลดทอนความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้"นายเผ่าพิทยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น(GP)ในปีนี้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน คือ 40% เพราะลูกค้าที่ซื้อที่ดินในนิคมฯ ยังรับราคาที่เสนอขายและก็ไม่จำเป็นต้องลดราคา หากทำเลยังมีศักยภาพและตรงตามความต้องการ รวมทั้งบริษัทยังมีโครงการคอนโดมิเนียม The Park ที่จะทยอยรับรู้รายได้ปี 52-53
สำหรับการประกาศเขตควบคุมมลพิษที่มาบตาพุด จ.ระยอง นายเผ่าพิทยา กล่าวว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหกรรมที่มาบตาพุดเหลือที่ดินเปล่าเพียง 300 ไร่ถือว่าไม่มากแล้ว และมาบตาพุดเป็นทำเลที่ดีใกล้แหล่งผลิต จึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก