ธนาคารทหารไทย(TMB)เปิดตัวผู้บริหาร 6 ฝ่ายภายใต้การบริหารของนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมพลิกโฉมเน้นตอบสนองลูกค้าเป็นหลัก นำศักยภาพ ING เสริมความแข็งแกร่ง ยกระดับบริการและมาตรฐาน ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีชิงส่วนแบ่งตลาดเงินฝากเพิ่มเท่าตัวเป็น 14% ขยายรายได้ด้าน Retial เป็น 40% รายได้จากค่าธรรมเนียม(Fee) เป็น 35%
นายบุญทักษ์ กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายจะเป็นองค์กรที่ยึดหลักลูกค้าเป็นสำคัญ โดยใช้ศักยภาพของผู้บริหารระดับสูง และสร้างแรงจูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานได้ตามเป้าหมาย เน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ในปีนี้ธนาคารจะเน้นการเพิ่มลูกค้าใหม่ และเพิ่มลูกค้าที่ active ในการใช้บริการของธนาคาร ทั้งเครดิตการ์ด สินเชื่อส่วนบุคคล หรือบริการด้านอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็จะใช้บริษัทในเครือในรูปแบบ customer centric เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละ segment
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาด้านรธุรกิจขนาดใหญ่ กล่าวว่า ธนาคารมีลูกค้ารายใหญ่(wholesale)ราว 2 พันราย ในปีนี้จะเริ่มแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น 12 กลุ่มอุตสาหกรรม(cluster) เช่น กลุ่มเกษตร โทรคมนาคม หรือ อิเลคทรอนิกส์ เน้นสร้างความสัมพันธ์และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในการดำเนินธุรกิจ
ขณะเดียวกันธนาคารจะฝึกอบรมพนักงานโดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ ING Group ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการต่าง ๆ ให้เกิดความคล่องตัวรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ธนาคารได้เริ่มรุกธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น โดยการลดขั้นตอนและเวลาในการทำธุรกรรมจาก 7 วันเหลือ 3 วัน และเพิ่มความสะดวกในการให้บริการแก่ลูกค้า
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจ SME กล่าวว่า ธนาคารจะเน้นการหาผลิตภัณฑ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า SME เน้นตอบโจทย์ให้ลูกค้า ขณะเดียวกันจะเน้นในเรื่องการสร้าง transaction ให้ลูกค้ามาเปิดบัญชีกับธนาคารเพิ่มขึ้นทั้งออมทรัพย์และกระแสรายวัน หวังขยายการทำธุรกรรมในด้านอื่นๆ ขณะเดียวกันจะมีการลดขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อจาก 3-4 เดือนเหลือ 1 เดือนหรือ 20 วัน
นายมิฮาล ซูเร็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านลูกค้ารายย่อย กล่าวว่า ธนาคารวางเป้าหมายปรับโฉม 120 สาขา พร้อมเพิ่มความสะดวกในการให้บริการที่รวดเร็วและคล่องตัว ขยายบริการเอทีเอ็ม 300-400 จุดในทำเลที่เหมาะสม เปิดเพิ่มอีก 40 สาขาในดีสเค้าท์สโตร์
นอกจากนี้จะมีการออกผลิตภัณณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองวามต้องการของลูกค้ารายย่อย มีการพัฒนา call center และ call banking โดยมีเป้าเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อย 4.7 ล้านบัญชี ที่ขณะนี้เป็นบัญชี active เพียง 1 ล้านบัญชี ซึ่งธนาคารมีเป้าจะเพิ่มบัญชี เน้นในทุกด้านทั้งการทำการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และให้บริการที่รวดเร็ว
นายบาสท เอฟ.เอ็ม.แฮลเลแมนส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความเสี่ยง กล่าวว่า จากนี้ไปจะเน้นการสร้าง credit culture ด้วยการให้การบริหารความเสี่ยงเป็นพาร์ทเนอร์กับทีมบริหารธุรกิจ ซึ่งมองว่าอีก 9 เดือนจากนี้จะมีการวางหลักเกณฑ์ กฎระเบียบในการบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับทุก segment มีการฝึกอบรมพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญในการบริหารความเสี่ยง มีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ได้ โดยเฉพาะภายใต้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ขณะเดียวกันธนาคารมีแผนช่วงปลายปีที่จะทำ risk structure ในอุตสาหกรรมโรงแรม ขณะเดียวกันจะมีการทยอยขาย NPL ออกมาด้วย ซึ่งล่าสุดได้ขาย NPL ให้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์(บสก.)1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้ NPL ลดลง 2-3% จากที่มีอยู่ในสัดส่วน 15-16%ของสินเชื่อรวม
นายถนอมศักดิ์ โชติกประกาย ประธานเจ้าหน้าที่บริการด้านการเงิน กล่าวว่า ธนาคารมีเป้าหมายจะสร้างมาตรฐานทางการเงิน ทางบัญชีตามมาตรฐานสากล โดยในปี 53 จะเริ่มวางกฎระเบียบต่างๆ ด้านการบริหารบัญชีและการเงินให้อยู่ในระดับสากล เพื่อใช้ในการประเมินตัวเลขต่าง ๆ และผลประกอบการของธนาคาร
นายไซม่อน แอนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า ธนาคารจะพัฒนาการให้บริการต่าง ๆ นำเทคโนโลยีมาใช้ รวมถึงบริการด้านเทคนิค ซึ่งขณะนี้มี 200 process ที่จะทำให้ดีขึ้น ในช่วงปลาย มิ.ย.-ก.ค. กระบวนการต่าง ๆ ก็น่าจะตอบสนองความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน
*เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาวอายุ 10 ช่วง Q2/52
นายถนอมศักดิ์ เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมจะออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว อายุ 10 ปี ช่วงไตรมาส 2/52 เพื่อรองรับกการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะสูงเพื่อจูงใจผู้ลงทุน และจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาในวันที่ 29 เม.ย.โดยปัจจุบัน yield ตลาดอยู่ที่ 5% ซึ่งสาเหตุที่ออกหุ้นกู้ระยะยาวเพื่อโครงสร้างตลาดแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน