บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด โบรกเกอร์ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) ประกาศร่วมธุรกิจอย่างเป็นทางการกับ บริษัท ทีเอเอ ฟิวเจอร์ส จำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจ และขยายการบริการให้ครบลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เจเอสพี ฟิวเจอร์ส (Mr.Chanon Phucharoenyos CEO JSP Futures Co.,Ltd.) กล่าวว่า เจเอสพี มีความชำนาญในการดูแลลูกค้ากลุ่มสถาบัน และทำธุรกิจเชิงรุก และ ในขณะที่ ทีเอเอ ถนัดในการดูแลลูกค้า Retail ดังนั้นการรวมสองกิจการเข้าด้วยกัน จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ และถือว่าการรวมกันครั้งนี้ จะได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
ผลของการรวมกิจการนี้จะส่งผลให้ทีเอเอยุบรวมฐานลูกค้าเข้ามาหาเจเอสพี ทำให้เจเอสพีสามารถเพิ่มรายได้ค่านายหน้าจากบัญชีลูกค้าที่เพิ่มโตขึ้นแบบก้าวกระโดด รวมทั้งได้รับประโยชน์อย่างมากจากการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติการ ส่งผลให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก จึงคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2552 นี้ เจเอสพี จะสามารถเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจถดถอยได้ โดยตั้งเป้ารายได้โต 20% และสัดส่วนมาร์เกตแชร์ เพิ่มขึ้น 5% ขยับเป็น 25%
ด้านนายเกษม สถริเสถียร กรรมการผู้จัดการ บจก.ทีเอเอ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การที่บริษัทได้ร่วมธุรกิจกับเจเอสพีจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และลูกค้าได้รับประโยชน์จากการบริการที่ครบวงจรมากขึ้น พร้อมทั้ง เล็งเห็นว่าเจเอสพี เป็นบริษัทที่มีความพร้อมหลายด้าน มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจตราสารอนุพันธ์อย่างแท้จริง มีการบริหารงานแบบคนรุ่นใหม่ และมีการลงทุนในบุคลากร ซึ่งการตัดสินใจร่วมธุรกิจในครั้งนี้ น่าจะเป็นการสร้างทางเลือกที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าปัจจุบัน และเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ร่วมกันในอนาคตต่อไป