ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดอ่อนตัวลงกันถ้วนหน้า หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อหลายวันก่อน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเรื่องผลประกอบการที่อ่อนแอในภาคเอกชนและปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคธนาคาร
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,838.66 จุด ลดลง 19.27 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,296.32 จุด ลดลง 1.53 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 5,497.88 จุด ลบ 58.34 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 1,827.10 ลบ 20.88 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ลบ 0.3% แตะ 86.83 จุด เมื่อเวลา 9.09 น.ตามเวลาท้องถิ่นในญี่ปุ่น
หุ้นริโอ ทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดิ่งลง 9.2% ในตลาดหุ้นออสเตรเลียเพราะมีการคาดการณ์เรื่องการขายหุ้น หุ้นมิซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ซึ่งได้ลงทุนในเมอร์ริล ลินช์ 1.2 พันล้านดอลลาร์ ตกลง 2% หลังจากที่นายไมเคิล มาโย นักวิเคราะห์ชื่อดังคาดการณ์ว่าจะมีธนาคารขาดทุนอีกเป็นจำนวนมากและความพยายามของรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการกู้วิกฤติภาคธนาคารนั้น ยังไม่มากพอ นอกจากนี้ มาโยคาดว่าตัวเลขขาดทุนในภาคธนาคารจะอยู่ในระดับสูงกว่าเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการณ์ Great Depression ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ส่วนหุ้นเทลสตรา ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย บวก 2.2% ขานรับข่าวรัฐบาลออสเตรเลียวางแผนสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
ฮิวจ์ ไดฟ์ ผู้บริหารของอินเวสเตอร์ส มิวชวล กล่าวว่า ตอนนี้หากถามบริษัทเอกชนว่าแนวโน้มต่อไปจะเริ่มเห็นแสงเรืองรองบ้างหรือไม่ คำตอบที่ได้ในตอนนี้ก็คือยัง