นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บมจ. จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)เปิดเผยว่า บริษัทได้จับมือกับบริษัท ทีเจมีเดีย(ไทยแลนด์)จำกัด ในเครือบริษัท ทีเจมีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจเครื่องเล่นคาราโอเกะและสินค้าประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องคาราโอเกะ จากเกาหลี & nbsp; นำเครื่องเล่นคาราโอเกะแบรนด์ทีเจมีเดียเข้ามาจำหน่ายในไทย ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค.52 เป็นต้นไป ตั้งเป้าปีแรกมียอดขายอย่างน้อย 7,000 เครื่อง แบ่งเป็น เครื่องเล่นคาราโอเกะเชิงพาณิชย์ 30% และเครื่องเล่นคาราโอเกะประเภทลูกค้าที่ใช้ในบ้าน 70%
ชูจุดเด่นใช้งานง่ายเติมเพลงสะดวก และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ (Commercial User) โดยมี MPI เป็นตัวแทนจำหน่าย ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ใช้ในบ้าน (Home User) มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเป็นตัวแทนจำหน่าย เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เป็นต้น จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ ขนาด 320 GB ราคา 9,900 บาท และ ขนาด 500 GB ราคา 12,900 บาท
"บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสขยายช่องทางจำหน่ายเพลงในรูปแบบธุรกิจการร้อง (Singing Business) จากแนวโน้มคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบร้องเพลงคาราโอเกะทั้งนอกบ้านและในบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อคลายเครียดจากการเรียนและการทำงาน ขณะเดียวกันถือเป็นโอกาสสังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง
ซึ่งถ้าเป็นลูกค้าร้านคาราโอเกะ เรามีเจ้าหน้าที่ MPI ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ให้บริการเติมเพลงใหม่ๆ ถึงที่ร้านค้า ขณะที่ถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปสามารถเติมเพลงใหม่ๆ หรือเพลงโปรดได้ตามใจชอบ เพียงถอดฮาร์ดดิสก์ไปเพิ่มเพลงได้ที่ร้านอิมเมจิ้นทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งคาราโอเกะเครื่องนี้ยังสามารถดูหนังฟังเพลงจากแผ่นซีดี วีซีดี และดีวีดีได้เช่นเดียวกับเครื่องเล่นวีซีดีและดีวีดีทั่วไป" นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือในลักษณะวิน วินทั้งสองฝ่าย เพราะทีเจ มีเดียจะรับรู้รายได้จากยอดขายเครื่องเล่นคาราโอเกะ ขณะที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่จะรับรู้รายได้ 2 ส่วน คือ 1.จากค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำ และค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงในสถานประกอบการคาราโอเกะแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะมีการนำเพลงคาราโอเกะของศิลปินจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เข้าไปบรรจุในฮาร์ดดิกส์ของเครื่องเล่นคาราโอเกะ แบรนด์ทีเจมีเดีย และ 2. จากรับรู้รายได้จากค่าบริการเติมเพลง ซึ่งในส่วนที่สองหากผู้บริโภคมีพฤติกรรมเติมเพลงเป็นประจำหรือสม่ำเสมอ จะทำให้มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันเป็นการสนับสนุนใช้สินค้าเพลงที่มีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ธุรกิจคาราโอเกะในประเทศไทยมีมาตรฐานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาละเมิดการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำและค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงในสถานประกอบการคาราโอเกะต่างๆ น่าจะลดน้อยลง
ปัจจุบัน แกรมมี่มีบริษัทในเครือชื่อ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(MPI) ประกอบธุรกิจบริหารและจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ จากผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร สื่อวิทยุ ร้านคาราโอเกะ ตู้คาราโอเกะ หรือผู้ประกอบการอื่นๆ ที่นำผลงานเพลงของแกรมมี่ไปใช้ในเชิงการค้า และมีบริษัท คลีน คาราโอเกะ จำกัด หรือ CK ประกอบธุรกิจร้านคาราโอเกะบนห้างสรรพสินค้า