นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงจะไม่เสนอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานน้ำมันใหม่ตามมาตรฐานสหภาพยุโรประดับที่ 4(ยูโร 4) ซึ่งจะบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.55 ตามข้อเรียกร้องของโรงกลั่นบางราย
เนื่องจากที่ผ่านมามีการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานยูโร 4 มาแล้วครั้งหนึ่ง และหากโรงกลั่นของ บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC), บมจ.โรงกลั่นน้ำมันสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) และ บมจ.เอสโซ่(ESSO) มีการลงทุนปรับมาตรฐานเป็นยูโร 4 ก็จะทำให้น้ำมันที่ผลิตได้มีเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ
นอกจากนี้ ปัจจุบันโรงกลั่นบมจ.ไทยออยล์(TOP) และบมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)สามารถกลั่นน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ได้แล้ว ส่วนโรงกลั่นฯ ที่เหลือ อาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่ม แต่อาจใช้แนวทางแลกเปลี่ยนน้ำมันระหว่างกัน โดยนำน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 ขายในประเทศ ส่วนระดับมาตรฐานยูโร 3 ที่ผลิตใช้ในปัจจุบันก็สามารถส่งออกได้
อนึ่ง กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันได้เสนอให้เลื่อนบังคับใช้ยูโร 4 ออกไปอีก 1-2 ปี เนื่องจากค่าก่อสร้างยังอยู่ในเกณฑ์สูง และหากทุกโรงกลั่นฯ ต้องลงทุนยูโร 4 ทั้งหมด ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท ขณะที่ยังมีปัญหาเศรษฐกิจทำให้ความต้องการน้ำมันไม่ได้เติบโตตามคาดการณ์เดิม ดังนั้น จึงมีแนวโน้มอาจต้องส่งออกน้ำมันยูโร 4 ในขณะที่ตลาดรับซื้อส่วนใหญ่ยังใช้มาตรฐานน้ำมันในระดับต่ำกว่านี้ทำให้ต้องขายในราคาถูก ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุน