น.ส.สิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) เชื่อว่าในปีนี้จะมีการเติบโตของยอดขายที่ 6% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตต่ำกว่าปีก่อนที่มีการเติบโตของยอดขายที่ 10% เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอและสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจจะส่งผลต่อยอดขายลงบ้าง
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ROBINS ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายในปีนี้ราว 8%
สำหรับยอดขายในไตรมาส 1/52 ยังมีแนวโน้มที่ดีโดยเติบโตราว 2% แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นเรื่องปกติในไตรมาสแรกของปี โดยธุรกิจของบริษัทจะไปดีในช่วงไตรมาส 3-4//52 ซึ่งมีเทศกาลหลายงาน
น.ส.สิรินิจ กล่าวว่า บริษัทมีความแตกต่างจากห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ โดยมีการนำสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์มาใช้ในการสร้างยอดขาย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการนำเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ในกลุ่มแฟชั่นสตรีที่เป็นของต่างประเทศเข้ามาแล้ว และในปีนี้จะนำเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ที่เป็นเครื่องสำอาง ภายใต้ยี่ห้อ"เดวิด โจนส์ บิวตี้"เข้ามากระตุ้นยอดขายเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ ROBINS ตั้งเป้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จะสร้างรายได้ในปีนี้สัดส่วน 10% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์จะมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 8% ของรายได้รวม โดยบริษัทอยู่ระหว่างการนำสินค้าแบรนด์ดังเข้ามาจำหน่ายอีก 1-2 แบรนด์ภายในปีนี้ ซึ่งตรงนี้จะสามารถสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้แน่นอน
และแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีปัญหา แต่บริษัทไม่มีแผนที่จะทบทวนการดำเนินธุรกิจหรือปรับแผนลงทุนที่ได้วางแผนในการขยายสาขาใหม่ 2 แห่งที่สระบุรีและขอนแก่น
"โรบินสันยังไม่มีแผนในการชะลอการลงทุน แม่เศรษฐกิจและการเมืองจะเป็นปัจจัยกดดันต่อผู้บรืโภคอยู่บ้างแต่เท่าที่ดู 2-3 เดือนอัตราคนเข้ามาใช้บริการก็ยังปกติ ประกอบกับการที่โรบินสันมีสาขาในภูมิภาคที่มั่นคงจึงไม่ห่วงอะไร" น.ส.สิรินิจ กล่าว
ส่วนการใชจ่ายจากโครงการเช็คช่วยชาติ พบว่ามีลูกค้านำเช็คมาใช้จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการจ่ายจ่ายซื้อเครื่องสำอางเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นเสื้อชั้นในและกางเกงยีนส์