THCOM คาดพลิกเป็นกำไรครั้งแรกใน H2/52 ทั้งปีหวังแค่เสมอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 9, 2009 17:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยคม(THCOM) คาดว่า ผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นกำไรครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 52 โดยจะเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/52 เนื่องจากการตัดค่าเสื่อมราคาของดาวเทียมไทยคม 1 จะหมดลงในช่วงเดือน เม.ย.52 นี้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไตรมาส 1/52 บริษัทคงจะขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งเห็นได้จากช่วง 2 เดือนแรกยังมีผลขาดทุน แต่ทั้งปี 52 บริษัทหวังว่าผลประกอบการจะออกมาเสมอตัว อย่างน้อยคือไม่ขาดทุน จึงทำให้โอกาสที่จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นก็ยังค่อนข้างเป็นไปได้ยาก

"ครึ่งแรกปีนี้บริษัทคงยังขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/52 ดังนั้นปีนี้ทั้งปีไทยคมน่าจะไม่ขาดทุนเหมือนปีก่อน ส่วนจะมีกำไรเพื่อจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่ คงเป็นเรื่องยาก คงต้องรอไปก่อน"นายดำรงค์ กล่าว

สำหรับดาวเทียมไทยคม 1 ที่กำลังจะหมดอายุลงในกลางปีนี้นั้น บริษัทจะย้ายลูกค้าทั้งหมดจากไทยคม 1 ไปใช้ไทยคม 5 โดยขณะนี้ความสามารถในการรองรับ(capacity)ของไทยคม 5 ยังอยู่ในระดับ 70% หากรับลูกค้าจากไทยคม 1 ไปสมทบก็จะทำให้ capacity เพิ่มขึ้นเป็น 80-90%

ส่วนไทยคม 2 ที่จะหมดอายุกลางปีหน้า(2553)นั้น บริษัทกำลังมองหาดาวเทียมมาทดแทน เพราะไทยคม 5 คงไม่สามารถรองรับได้ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจจากับบมจ.ทีโอที เพื่อขออนุญาตเช่าดาวเทียมดวงอื่นมาใช้แทน และบริษัทยืนยันว่ายังไม่มีแผนลงทุนดาวเทียมดวงใหม่ จนกว่าไอพีสตาร์จะเต็ม capacity

นายดำรง กล่าวถึงกิจการไอพีสตาร์ว่า การขยายตลาดในอินเดียและไต้หวันน่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/52 หลังจากที่เกิดความล่าช้ามานานแล้ว ซึ่งจะทำให้ไอพีสตาร์เปิดให้บริการครบ 14 ประเทศ ตามสัญญาสัมปทาน

ในปี 52 บริษัทจะมุ่งเติบโตในตลาดออสเตรเลียและจีน โดยออสเตรเลียเป็นตลาดที่บริษัทครองส่วนแบ่งอันดับ 1 มียอดลูกค้า 6 หมื่นราย โดยตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 3-4 แสนรายภายใน 3 ปีข้างหน้านับจากปีนี้ เนื่องจากเป็นตลาดที่ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ เชื่อว่าจะมีการเติบโตค่อนข้างเร็ว

ส่วนตลาดจีนขณะนี้มีมาร์เก็ตแชร์ค่อนข้างต่ำประมาณ 1% จึงต้องเร่งการเติบโตให้ได้มากที่สุดในปีนี้ เพราะการลงทุนแสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีส่วนแบ่งน้อย

ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อต้นเดือน เม.ย.52 แม้ว่าจะเป็นประเทศที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการบรอดแบนจำนวนมากกว่า 98% อยู่แล้ว แต่ยังมีพื้นที่ห่างไกลและภูมิประเทศบางจุดที่เป็นเกาะที่เป็นเป้าหมายทางการตลาดของไอพีสตาร์ ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการในญี่ปุ่นประมาณ 2 แสนครัวเรือนภายใน 3 ปี

ขณะที่ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกัมพูชาและลาวนั้น นายดำรงค์ กล่าวว่า ปัจจุบันที่ลาวมีลูกค้าประมาณ 9.6 แสนราย และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% ซึ่งอัตราการเติบโตเป็นไปได้ยาก แต่บริษัทหวังจะรักษามาร์เก็ตแชร์เอาไว้ ส่วนที่กัมพูชามีลูกค้า 9.2 แสนราย มาร์เก็ตแชร์ 30% ซึ่งในอนาคตตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้สูง บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์เป็น 50% ในระยะ 10 ปีข้างหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ