ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) หลังจากธนาคารเวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ดีเกินคาด เนื่องจากธุรกิจด้านการปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งกล่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารทะยานขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 246.27 จุด หรือ 3.14% แตะที่ 8,083.38 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 31.40 จุด หรือ 3.81% แตะที่ 856.56 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 61.88 จุด หรือ 3.89% แตะ 1,652.54 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.84 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.19 พันล้านหุ้น
ริค คัมปันกา นักวิเคราะห์จากบริษัท 300 North Capital ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคักหลังจากธนาคารเวลส์ ฟาร์โก คาดการณ์ว่า ธนาคารจะสามารถทำกำไรในไตรมาสแรกได้ราว 3 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากธุรกิจด้านการปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการในภาคเอกชน หลังจากบริษัท อัลโค เปิดเผยตัวเลขขาดทุนเมื่อวันก่อน
บริษัทอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 497 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดทุนติดต่อกันสองไตรมาส เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนได้ส่งผลให้ราคาอลูมิเนียมปรับตัวลดลงและยังฉุดรั้งอุปสงค์อลูมิเนียม ซึ่งรายงานดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่า อุตสาหกรรมที่ต้องใช้อลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญเช่นอุตสาหกรรมยานยนต์และการก่อสร้างทรุดตัวลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ อัลโคประกาศแผนการปลดพนักงานทั่วโลกลง 13% และขาย 4 ธุรกิจของบริษัท รวมถึงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นตัวเลขงบดุลบัญชีให้มีความสมดุล
นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่าบริษัท อินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) เร่งขยายฐานธุรกิจในอินเดียและเดินหน้าชิงส่วนแบ่งตลาดเพื่อแซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่งในอินเดีย รวมถึงบริษัท ทาทา คอนซัลแทนซี เซอวิสเซส และบริษัท อินโฟซิส เทคโนโลยีส์ นอกจากนี้ คาดว่า IBM จะสามารถดึงฐานลูกค้าจากบริษัท ซัตยัม คอมพิวเตอร์ เซอร์วิสเซส ของอินเดียที่กำลังถูกกระทบอย่างหนักจากคดีฉ้อโกง
Eurekahedge ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่บริษัทและสถาบันการเงินทั่วโลก เปิดเผยว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์เข้าลงทุนในตลาดต่างๆทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนมี.ค. และลงทุนเพิ่มขึ้น 7.2% ในตลาดหุ้นทั่วโลก
ข่าวคาดการณ์ผลประกอบการของเวลส์ ฟาร์โก ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นเวลส์ ฟาร์โกปิดบวก 31.7% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดพุ่ง 35.3% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปิดบวก 19.4% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่ง 12.6%
นักลงทุนไม่ค่อยให้น้ำหนักกับรายงานยอดขายที่ต่ำเกินคาดของยักษ์ใหญ่ห้างค้าปลีกอย่างวอล-มาร์ท ซึ่งแม้ว่าหุ้นวอล-มาร์ทปิดร่วง 3.7% แต่หุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ปิดบวก 6.1% และหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นด้วย