ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภคและกลุ่มการเงิน หลังจากมีรายงานบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐมีแนวโน้มผ่อนคลายลง รวมถึงรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่าเศรษฐกิจชะลอตัวในอัตราที่ช้าลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 109.44 จุด หรือ 1.38% แตะที่ 8,029.62 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 10.56 จุดหรือ 1.25% แตะที่ 852.06 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.08 จุดหรือ 0.07% แตะที่ 1,626.80 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.48 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 7 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.08 พันล้านหุ้น
ไรอัน ลาร์สัน นักวิเคราะห์จาก Voyageur Asset Management กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค อาทิ หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) หลังจากพีแอนด์จีประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล และหุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด
หุ้นกลุ่มการเงินได้รับแรงหนุนหลังจากโกลด์แมน แซคส์ รายงานผลกำไรไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ 1.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากกำไรจากการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยชดเชยการขาดทุนจากการปล่อยกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์
ตัวเลขกำไรในช่วงสามเดือนแรกปีนี้ของโกลด์แมน แซคส์ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าภาคธนาคารเริ่มฟื้นตัวแล้ว หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคาร เวลส์ ฟารโก ก็เพิ่งออกมาสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ด้วยการเปิดเผยรายงานผลประกอบการเบื้องต้นที่ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีนี้พุ่งขึ้น 50% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราว 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเจพีมอร์แกน เชสทะยานขึ้นด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนคาดว่าเจพีมอร์แกนจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในรัฐนิวยอร์กหดตัวลงน้อยกว่าคาดในเดือนเม.ย. และรายงาน Beige Book ของเฟดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวในอัตราที่ช้าลง ซึ่งผิดกว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงในอัตราที่รวดเร็วเกินความคาดหมาย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไป ร่วงเกินคาด 0.1% ในเดือนมี.ค.หลังเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค.หลังเพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.1%
ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส พุ่งขึ้น 19% หุ้นพีแอนด์จีปิดบวก 3.2%