KTB โอดสเปรดแคบลดดบ.ยาก/เล็งขอลดส่งเงินสมทบสถาบันประกันเงินฝาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 20, 2009 09:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายปรับลดดอกเบี้ยลงอีก เพราะได้มีการปรับลดดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวขณะนี้ เห็นว่าการปรับลดดอกเบี้ย ไม่ได้มีผลช่วยฟื้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการช่วยลูกค้าของธนาคารมากกว่า

นอกจากนี้ สภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีอยู่สูง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ได้มีการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ และไม่ได้เป็นแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถปรับลดดอกเบี้ยลงได้ แต่เกิดจากการที่ดอกเบี้ยในช่วงขาลง และธนาคารพาณิชย์มีส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก (Spread) แคบลงมาก

และแม้ว่า รัฐบาลเตรียมกู้เงินในประเทศเพิ่มอีก 94,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคเอกชนที่เตรียมออกหุ้นกู้ขายให้นักลงทุน ยังเชื่อว่าสภาพคล่องในระบบยังมีรองรับเพียงพอ เนื่องจาก ดุลการค้าของรัฐบาลที่ยังเกินดุลต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในขณะนี้ การมีนโยบายคงสภาพคล่องไว้ในระบบถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการลดความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ไม่ต้องเกิดความกังวลว่า จะไม่มีสภาพคล่อง แต่ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนมากกว่า ที่พร้อมจะยื่นขอสินเชื่อหรือไม่

"เศรษฐกิจตอนนี้ แม้จะมีการลดดอกเบี้ยลง 1-2% ก็ไม่ได้ทำให้สินเชื่อแบงก์เพิ่มขึ้น...การมีสภาพคล่องไว้ในระบบ ดีกว่าปล่อยไว้ให้แห้ง "นายอภิศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการที่ธนาคารพาณิชย์มีสภาพคล่องในระดับสูง ทำให้ต้องนำเงินไปพักไว้ในตลาดอินเตอร์แบงก์ หรือ ตลาดอาร์พี แต่เมื่อ ธปท. ยังปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่อง การทำให้ธนาคารพาณิชย์ ฝากเงินระยะสั้นใน อินเตอร์แบงก์ หรือ ตลาดอาร์พี ก็อาจมีผลขาดทุนได้ เมื่อเทียบกับต้นทุนที่มีอยู่ ดังนั้น จึงต้องเร่งปล่อยสินเชื่อ

นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลมีแผนกู้เงินต่างประเทศ ถือเป็นนโยบายที่ดี เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสภาพคล่องในอนาคต แม้ขณะนี้ ไทยยังมีสภาพคล่องอยู่สูงก็ตาม แต่ หลายประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และพยายามเร่งหาแนวทางการเพิ่มสภาพคล่อง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาเงินไหลออกนอกประเทศ อาจจะทำให้เกิดความกังวลในอนาคตได้ หลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศ ทั้งในเรื่องการทำให้การเมืองเกิดเสถียรภาพ เพื่อให้รัฐบาลเร่งลงทุนโครงการต่างๆ ได้ หลังจากนั้นจะทำให้ภาคเอกชน ขยายการลงทุนตาม และเกิดการจ้างงาน มีผลต่อเนื่องต่อภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

“สภาพคล่องในระบบของเรายังมีมาก เพราะภาคเอกชนชะลอการกู้เงิน ดุลการค้าที่เกินดุล ดังนั้นสภาพคล่องเป็นปัญหาต่อเราน้อย ยกเว้นกรณีประเทศที่มีปัญหามากๆ ...จีดีพีลด ก็ทำให้รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องกู้เงินเพิ่ม ยิ่งจีดีพีลดมาก รัฐบาลยิ่งเก็บภาษีไม่ได้มากขึ้น" นายอภิศักดิ์ กล่าว

กรรมการผู้จัดการ KTB กล่าวต่อว่า ธนาคารยังมีต้นทุนที่ต้องส่งเงินสมทบเข้าสถาบันประกันเงินฝากในอัตรา 0.4%ของยอดเงินฝาก หากทางการสามารถยกเว้นการส่งเงินสมทบส่วนนี้ได้ จะช่วยลดต้นทุนของธนาคารพาณิชย์ และเพื่อให้ธนาคาร สามารถลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อช่วยลูกค้า หรือเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อช่วยผู้ออมเงินได้ด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกันเงินฝาก สามารถให้ธนาคารพาณิชย์ ลดเงินสมทบนำส่งเข้าสถาบันประกันเงินฝากได้อยู่แล้ว

สำหรับสถาบันประกันเงินฝากนั้น แม้จะมองว่าในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีที่อาจเป็นความเสี่ยงนั้น ควรจะเก็บเงินสมทบดังกล่าวไว้ก็ตาม แต่เห็นว่า หากมีปัญหาเกิดขึ้นจริง สถาบันประกันเงินฝาก สามารถที่จะออกพันธบัตร ระดมเงินได้เช่นกัน

“สถาบันประกันเงินฝาก เก็บเงินส่วนนี้ไปก็ไม่ได้นำไปใช้ทำอะไร ดังนั้นหากมีการยกเว้นส่วนนี้ ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ ก็จะทำให้แบงก์ช่วยลูกค้า ได้ทั้งผู้กู้เงิน และผู้ฝากเงิน ก็น่าจะเป็นเรื่องดี" นายอภิศักดิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ