ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งแคบ อาจมีแรง take profit บ้าง คล้ายตลาดภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 20, 2009 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยอาจจะมีแรง take profit บ้าง ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นไปในลักษณะเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะมีการพักตัวในกรอบแคบ หลังจากที่ได้มีการปรับตัวขึ้นไปติดต่อกันหลายวันในช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เวลานี้ตลาดไม่ได้มีอะไรใหม่ แต่ตลาดสหรัฐฯยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งก็คงจะรับผลจาก earning ของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ออกมาเป็นบวก

อย่างไรก็ดีมองว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะยังสามารถเลือกเล่นเป็นรายตัวได้อยู่ พร้อมแนะให้ติดตามดูทิศทางของตลาดต่างประเทศด้วย เพราะเวลานี้ตลาดบ้านเราจะขึ้นอยู่กับปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นส่วนใหญ่

พร้อมให้แนวต้าน 460-465 จุด แนวรับ 445 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 เม.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 8,131.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.90 จุด(+0.07%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 869.60 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด(+0.50%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 1,673.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.63 จุด (+0.16%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 275.76 ล้านบาทเมื่อ 17 เม.ย.52
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.35 ดอลลาร์
  • "สมเกียรติ อนุราษฎร์" รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่าน มา ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าในต่างประเทศสอบถามมายังผู้ส่งออกไทยหลายราย ว่าจะกระทบต่อ การผลิตและส่งออกสินค้าหรือไม่ เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่ต่างประเทศเริ่มติดต่อเจรจาสั่งซื้อสินค้า เพื่อเตรียมวางจำหน่ายในช่วงปลายปี
  • แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เผยปัญหาวิกฤตทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบริโภคของประชาชนและภาคเอกชน จนกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบ ประมาณ 2552 โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะลดลงต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 3 แสนล้านบาท
  • "อลงกรณ์ พลบุตร" รมช.พาณิชย์ เผยรัฐบาลพร้อมจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย) หรืออาเซียนซัมมิตบวก 3 และบวก 6 ครั้งที่ 14 หลังล้มเลิกการจัดประชุมที่พัทยา เมื่อวันที่ 10-12 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดจะสามารถจัดประชุมได้ในปลายเดือนพ.ค.นี้
  • อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยเดือนพ.ค.นี้ จะใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจพิเศษประมาณ 350 ล้านบาท จากงบที่ได้รับจัดสรรในรอบแรกทั้งหมด 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวโครงการร้านค้าสีฟ้า 4 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.บลู ฟาร์ม เอาท์เลท 2.บลู แฟค ตอรี เอาท์เลท 3.บลู ช็อป และ 4.ตลาดสดสีฟ้า
  • ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ จะเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้พิจารณารายละเอียดโครงการกู้เงินระยะสั้นของรัฐวิสาหกิจวงเงิน 2 แสนล้านบาท เนื่องจากปัจจุบัน มีรัฐวิสาหกิจ 4-5 แห่ง ที่มีความจำเป็นต้องใช้วงเงินกู้ระยะสั้น
  • สมาคมแบงก์เสนอรัฐลดวงเงินนำส่งกองทุนคุ้มครองเงินฝาก 0.4% หวังนำมาลดดอกเบี้ยเงินกู้บรรเทาภาระลูกค้า หรือเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก ช่วยผู้มีรายได้ดอกเบี้ยมีแรงใช้จ่ายต่อ ชี้เงินนำส่งในขณะนี้คิดเป็น 80% ของดอกเบี้ยออมทรัพย์ หากลดได้ลูกค้าได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันคาดผลประกอบการลดทั้งปี ชี้ไตรมาสแรกเห็นสเปรดลดลงแล้ว แม้รายได้ดอกเบี้ยยังไม่ลดลงเหตุสินเชื่อโตดี
  • แบงก์ชาติกำชับแบงก์พาณิชย์เร่งหามาตรการรองรับเหตุฉุกเฉิน หลังกลุ่มคนเสื้อแดงก่อกวนสาขาแบงก์ สั่งอย่างน้อยสถาบันการเงินทุกแห่งควรมีฐานข้อมูลสำรอง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งควรเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยพนักงาน หวังให้ธุรกรรมทางการเงินเดินหน้าต่อไปได้ลูกค้า และพนักงานได้รับความปลอดภัย
  • สบน.เมินกู้เงินจากตลาดต่างประเทศหันพึ่งองค์กรระหว่างประเทศแทน ชี้เครดิตประเทศลดไม่กระทบต้นทุนการกู้ยืมในประเทศ แถมดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงด้วยซ้ำ พร้อมระบุสภาพคล่องในประเทศมีเพียงพอรองรับรัฐกู้เงินปีละ 5 แสนล้าน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ