MCOT มุ่งเพิ่มรายได้คอนเทนท์ในมือ เน้นงานคอนเสิร์ต-อีเว้นท์ ดันกำไรโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 20, 2009 11:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

MCOT เร่งสร้างรายได้จากคอนเทนท์ในมือชิงส่วนแบ่งหน้าจอหลังทีวีดาวเทียมมาแรง ขณะที่อนาคตรายได้จากสัมปทานบางส่วนจะหายไป โดยไตรมาสแรกปีนี้ ช่อง 9 นั่งแท่นอันดับ 3 เชื่อหลังปรับผังรายการกลางปีหลังได้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่จะมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น มุ่งสร้างรายได้เพิ่มจากงานคอนเสิร์ต-อีเว้นต์ ผู้บริหารคาดรายได้ปี 52 เติบโต 7% จากปี 51 หรือ มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4.4 พันล้าน ผลักดันกำไรสูงกว่า 1 พันล้านต่อเนื่องจากปีก่อน

นายเขมทัต พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท(MCOT) เปิดเผยว่า อสมท.ต้องมีการปรับตัวสร้างรายได้รอบด้านเพิ่มมากขึ้น โดยการบริหารคอนเทนท์ในมือให้เกิดรายได้มากที่สุดเพื่อแข่งขันกับสื่อใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและเติบโตสูงมากมีส่วนแบ่งหลายพันล้านบาทจากมูลค่าตลาดสื่อรวม 8 หมื่นล้านบาท โดยสื่อโทรทัศน์มีส่วนแบ่งประมาณ 30-40% ซึ่งหากฟรีทีวีไม่ปรับตัวจะสูญเสียรายได้ไปเรื่อยๆ

นอกจากนั้น จะต้องปรับตัวเพื่อรับสถานการณ์ในอนาคต โดยเฉพาะหากพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ออกมาบังคับใช้ อสมท.อาจต้องสูญเสียรายได้จากสัมปทานบางส่วนที่ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง ซึ่งคาดการณ์เบื้องต้นประมาณ 200 ล้านบาท/ปี

*คาดโมเดิร์นไนน์ส่วนแบ่งตลาดเริ่มขยับดีขึ้นต่อเนื่องหลังปรับผังรายการกลางปี

นายเขมทัต เชื่อว่า การปรับผังรายการกลางปีนี้จะทำให้ส่วนแบ่งผู้ชม(Audience share)ของโมเดิร์นไนน์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในช่วงไตรมาส 1/52 มีส่วนแบ่งที่ 11% ขยับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/51 ที่อยู่ในระดับ 9.9% โดยยังอยู่ในอันดับ 3 รองจากช่อง 7 ที่มีส่วนแบ่ง 34.7% และช่อง 3 มีส่วนแบ่ง 29.8%

ส่วนแบ่งผู้ชมของโมเดิร์นไนน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากมีการปรับผังรายการข่าวในช่วงเช้า ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก

"อสมท.ทยอยปรับรูปแบบรายการข่าวมาต่อเนื่องทั้ง ข่าวเช้า ข่าวเที่ยง และข่าวค่ำ ทั้งปรับฉากและจะมีความรวดเร็วในการนำเสนอมากขึ้น หากมีรถโอบีเพิ่มเข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างการสั่งซื้อและจะศึกษาการปรับรูปแบบข่าวเที่ยงคืนเพิ่มเติม"นายเขมทัต กล่าว

ขณะที่ในด้านส่วนแบ่งเม็ดเงินโฆษณาในไตรมาส 1/52 ช่อง 3 มาเป็นอันดับ 1 ที่ 30% และ ช่อง 7 ที่ 25% ส่วนช่อง 9 กับ ช่อง 5 มีส่วนแบ่งเท่ากันที่ 20% ซึ่งถือว่าดีขึ้น เพราะในอดีตช่อง 9 มีส่วนแบ่งเม็ดเงินโฆษณาต่ำกว่าช่อง 5 เนื่องจากบริษัทไม่มีละครหลังข่าวที่เป็นตัวดึงดูรายได้ค่าโฆษณา

*คาดปี 52 กำไรโตต่อเนื่อง เน้นทำรายได้เพิ่มจากคอนเสิร์ต-งานอีเว้นท์

ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT คาดว่า ในปี 52 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 7% จากปีก่อน โดยประมาณการรายได้ไม่ต่ำกว่า 4.4 พันล้านบาท และกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท โดยแนวโน้มไตรมาส 1/52 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ โดยปกติรายได้ของ อสมท.เป็น season โดยไตรมาส 1 มีสัดส่วนรายได้กว่า 20% ส่วนไตรมาส 2 เป็นไตรมาสที่มีสัดส่วนรายได้สูงสุดประมาณ 30-35% ส่วนไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นมีส่วนแบ่งรายได้ไม่ถึง 20% และไตรมาส 4 จะมีสัดส่วนรายได้ 30%

รายได้หลักของอสมท.ยังมาจากธุรกิจโทรทัศน์ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะทำรายได้ประมาณ 2.6 พันล้านบาท รองลงมาเป็นวิทยุประมาณ 1 พันล้านบาท และรายได้จากค่าสัมปทานที่ประมาณ 700-800 ล้านบาท

กุญแจนำไปสู่ความสำเร็จของ อสมท.ได้แก่ Product Port คือการจัดสัดส่วนรายการให้เหมาะสม รักษาความเป็นสังคมอุดมปัญญา เน้นสร้างสรรค์ สารคดีเชิงข่าว และเรียลลิตี้ ,Pricing เน้นการตรึงราคาค่าโฆษณาและมีการเสนอแพ็คเกจให้ลูกค้า ส่วนลดให้ลูกค้า เพื่อให้รู้สึกว่าคุ้มค่าเมื่อโฆษณาผ่านช่อง 9

นายเขมทัต กล่าวว่า บริษัทยังให้ความสำคัญในการสร้างรายได้จากธุรกิจอื่นๆ เช่น การจัดคอนเสิร์ต และงานอีเวนท์ โดยคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10 งานในปีนี้ ซึ่งต้นปีประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ตศิลปินเกาหลี"วันเดอร์เกิร์ล"และเตรียมจะจัดคอนเสิร์ต"ดงบังชินกิ"รวมทั้งศิลปินไทยอีก 2 รายที่ได้รับความนิยม คาดว่าจะทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทในปีนี้ จากปี 51 อยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท

แนวทางดังกล่าวอยู่ภายใต้นโยบายการสร้าง Value เน้นสร้างพันธมิตรที่ช่วยส่งเสริมรายได้ เช่น พันธมิตรเกี่ยวกับคอนเสิร์ต หรือโชว์ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับดีมาก และการทำ Event Marketing เกี่ยวกับรายการของสถานี หรือ คลื่นวิทยุ รวมทั้งปี 52 จะเริ่มรับทำอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งด้าน CSR ด้วย

ขณะที่พันธมิตรด้านละคร โดยมีผู้ผลิตละครหลายรายส่งข้อเสนอมาให้ ล่าสุด ได้อาร์เอสผลิตละครให้ เตรียมส่งละครเรื่องใหม่“Daddy Duo คุณพ่อจอมเฟี้ยว”มีฟิล์ม"รัฐภูมิ"-โฟร์"ศกลรัตน์"แสดงนำ ซึ่งจะออกอากาศกลางเดือน พ.ค.นี้ และมีอีก 2-3 ค่ายเสนอเข้ามาด้วย

*เร่งหาผอ.ใหม่เข้ามาตัดสินขั้นสุดท้ายปรับผังกลางปี

นายเขมทัต กล่าวว่า ถึงแม้ว่าตนจะเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ของ อสมท.จากจำนวนผู้สมัคร 14 คน แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่ามีผู้ใดสมัครบ้าง

อย่างไรก็คาม เห็นว่าคณะกรรมการสรรหาควรเร่งดำเนินการเนื่องจากหากหลังมิ.ย.52 ไปแล้ว ยังไม่ได้ผู้อำนวยการคนใหม่จะส่งผลเสียต่อองค์กร เพราะบริษัทมีแผนปรับผังรายการประจำปี แต่อย่างไรก็ตาม การปรับผังยังยึดแนวสังคมอุดมปัญญา และหากรายการส่วนใหญ่ดีอยู่แล้วก็คงมีการปรับเปลี่ยนน้อย โดยตอนนี้บริษัทกำลังรอการอนุมัติรายชื่อคณะกรรมการใหม่จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนที่ 24 เม.ย.นี้

"ตอนนี้บอร์ดของบริษัทหายไปหลายคน และประธานบอร์ดหมดวาระลง ต้องมีอนุมัติกรรมการก่อนจึงจะได้เห็นการเดินหน้าคัดเลือกผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ได้ ซึ่งตนสมัครด้วยและเห็นว่าการที่เป็นคนในรู้จักองค์กรเป็นอย่างดีก็คาดหวัง"นายเขมทัต กล่าว

อนึ่ง อสมท.เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผุ้จัดการใหญ่ อสมท.แทนนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ตั้งแต่ 2 ก.พ.-16 มี.ค.52 โดยมีผู้สมัครทั้งหมด 14 คน และนายเขมทัต เป็นคนในอสมท. รายเดียวที่ลงสมัคร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ