อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นมาอยู่ที่ 25% ตามที่บริษัทวางเป้าหมายไว้ โดยเชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีจะมีงานใหม่ๆ ที่บริษัทจะเข้าไปประมูล
ทั้งนี้ ในเดือนเม.ย.นี้เริ่มมีสัญญาณงานเข้ามาแล้ว ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวกับโรงกลั่นน้ำมันซึ่งเป็นงานที่เลื่อนมาจากต้นปี รวมทั้งงานด้านปิโตรเคมีในต่างประเทศ อีกทั้งที่บริษัทได้เข้าไปประมูลงานและยังมีงานในมือแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับงานจากบริษัทร่วมทุน ดาว เคมีคัลเข้ามา 100 กว่าล้านบาท ก็จะผลักดันการเติบโตได้ และที่เหลือส่วนใหญ่เป็นงานที่ยกมาจากปีก่อนจึงทำให้เราเชื่อว่ารายได้ในปีนี้คงจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 1.8-1.9 พันล้านบาท
"ถ้าให้ผมประเมินมาร์จินในปีนี้ยอมรับว่ายากภายใต้การแข่งขัน แต่ก็อยู่ที่ออร์เดอร์ใหม่ว่ามาร์จินจะเป็นอย่างไรและภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเราทำได้ที่ 25% ตามเป้าหมายก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงขยันในการรับงานมากขึ้นแม้บางงานจะได้น้อย" นายไทยลักษณ์ กล่าว
นายไทยลักษณ์ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่คาดการณ์ยาก จีดีพีก็ติดลบ การเมืองและเศรษฐกิจยังกระทบ แม้การเมืองจะมีผลทางอ้อมแต่ก็มีส่วนทำให้ลูกค้าชะลอลงทุนเช่นกัน แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวก็เป็นโอกาสของบริษัทในการปรับปรุงประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นและลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่จะบริหารให้ดีและอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งถือว่ามีความสำคัญภายใต้สถานการณ์เช่นนี้