นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) คาดว่าในปี 52 รายได้ของบริษัทจะเติบโตไม่ถึง 10% ตามที่วางเป้าหมาย จากปีก่อนที่มีรายได้ 617 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างๆที่เป็นลูกค้าได้ชะลอการผลิตตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้มีกากขยะอุตสาหกรรมมีปริมาณน้อยลง
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าภาครัฐจะมีการผลักดันอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีการกำจัดกากอุตสาหกรรมยังไม่ได้มาตรฐานเข้ามาใช้กำจัดขยะให้ถูกวิธีมากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทอยู่นอกระบบหรือกำจัดขยะไม่ถูกวิธีถึง 75-80% ซึ่งหากรัฐเอาจริงเอาจังเรื่องนี้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อบริษัท และยังหวังว่าครึ่งปีหลังหากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวน่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย
"ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 1 ก็เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย และการที่ถูกปิดโรงงานที่สระบุรี ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆไม่กระทบรายได้ และไตรมาส 1 ปีนี้ เราจะรับรู้รายได้จากโครงการบำบัดน้ำเสียจากโคราช"นายสุวัฒน์กล่าวหลังการประชุมผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ การปิดถนนของชาวบ้านเพื่อคัดค้านโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมในจังหวัดสระบุรีในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นระยะเวลาสั้น ๆ บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบต่อรายได้ แต่กลับได้รับผลดีจากการที่ผู้เข้าตรวจสอบมาตรฐานของโรงงานยืนยันคุณภาพมาตรฐานสูงสุด ซึ่งทำให้โรงงานของบริษัทได้เปิดทำการในเวลาอันรวดเร็ว และยืนยันว่าในอนาคตจะไม่เกิดปัญหาจนต้องปิดโรงงานอีก
สำหรับโครงการก่อสร้างระบบกำจัดขยะมูลฝอยกับเทศบาลนครนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 412 ล้านบาทนั้น บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้เป็นเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/52 และหากมีโครงการของภาครัฐในลักษณะเดียวกันบริษัทก็จะเข้าร่วมประมูล แต่ปัจจุบันยังไม่มีความแน่นอนจากภาครัฐ
นายสุวัฒน์ กล่าวว่า กิจการของบริษัทลูก คือ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด คาดว่าปีนี้บริษัทดังกล่าวจะเริ่มมีกำไร จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 54 ล้านบาท และน่าจะส่งผลดีต่องบการเงินรวมของบริษัทด้วย
และในปีนี้บริษัทจะไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม แม้ว่าจะมีสภาพคล่องพร้อมกว่า 100 ล้านบาท รวมทั้งมีวงเงินกู้จาก 2 ธนาคาร จำนวนเกือบ 20 ล้านบาท
ส่วนการการซื้อหุ้นกิจการ บริษัท โกลบอล เอ็นไวรอนเมนทอล เทคโนโลยี จำกัด (GETCO) ซึ่งได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นออกหุ้นสามัญใหม่ของ BWG จำนวน 51 ล้านหุ้นเพื่อนำไปแลกหุ้น GETCO แทนการชำระเงิน โดยคิดเป็นมูลค่าหุ้นละ 7 บาทนั้น นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากภาวะตลาดหุ้นชะลอตัว ทำให้ราคาหุ้น BWG ปรับลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ GETCO ขอเลื่อนการขายกิจการออกไป เพือรอให้ราคาหุ้นเหมาะสมตามที่กำหนดแต่เดิม และ BWG เองไม่ต้องการออกหุ้นสามัญใหม่ให้ GETCO เพิ่มเติม