ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 466.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.48 จุด(+2.08%)มูลค่าการซื้อขาย 21,995.85 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 471.16 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 456.00 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 272 หลักทรัพย์ ลดลง 78 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 94 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่าที่คาดไว้ และดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะทรง ๆ ตัว ในลักษณะแกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดบ้านเรามีกลุ่มปตท.ขึ้นนำตลาด ทั้งนี้เป็นเพราะรับผลบวกจากราคาน้ำมัน,มีประเด็นการควบรวมกิจการของบริษัทในกลุ่ม และการคาดหวังผลประกอบการไตรมาส 1/52 จะดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ช่วงนี้เป็นช่วงของการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 1/52 และได้มีการประกาศงบฯออกมาแล้ว 2 แบงก์ซึ่งก็ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ สำหรับปัจจัยทางการเมืองก็เป็นเรื่องที่ยังปกคลุมตลาดฯอยู่ และต้องติดตามดูต่อไป
ส่วนปัจจัยจากภายนอกประเทศช่วงนี้ดูดีขึ้น เนื่องจากมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ภายหลังจากที่มีการคาดว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว นอกจากนี้ช่วงนี้ทางตลาดสหรัฐฯเองก็ได้เข้าสู่ช่วงของการประกาศผลประกอบการของกลุ่มการเงิน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 เม.ย.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังมีลุ้นบวกต่อได้ แต่ก็ต้องระวังแรงขายในระหว่างเทรดด้วย เพราะตลาดบ้านเรายังมีเรื่องการเมืองที่ปกคลุมอยู่ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 462 จุด แนวต้าน 479 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,378.55 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,776.69 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,749.33 ล้านบาท ปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,130.29 ล้านบาท ปิดที่ 251.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,050.91 ล้านบาท ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท