นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS) แนะนำกลยุทธการลงทุนช่วงตลาดหุ้นยังผันผวนและดอกเบี้ยขาลง หันมาเพิ่มการลงทุนตราสารหนี้อายุ 3-5 ปี และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตั๋วเงินคลังและพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นและระยะกลาง
ภาวะเศรษฐกิจชะลอและความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้การบริโภคลดลง จนทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 1.25% ขณะที่คาดว่าจะไม่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากกำลังการผลิตเหลือเพียงพอ ดังนั้น หากนักลงทุนยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ สามารถหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงเพื่อรองรับแนวโน้มเงินฝืด
และแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ดังนั้น การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในระยะนี้ จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของกำไรจากการลงทุน(Capital Gain)และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Dividend Yield)ที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 10 ปี
ขณะที่แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุนสำหรับตราสารหนี้ระยะยาว เนื่องจากคาดว่าจะมีตราสารใหม่เพิ่มขึ้นจากการใช้นโยบายการคลังแบบขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะกดดันราคาพันธบัตร แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.98% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่มองว่าราคาพันธบัตรยังไม่ต่ำพอที่จะเข้าซื้อ
รวมทั้งปรับลดคำแนะนำการลงทุนในทองคำจาก"เพิ่มน้ำหนักการลงทุน"มาเป็น"ถือ"เท่านั้น เนื่องจากไอเอ็มเอฟอาจขายทองคำเพื่อเพิ่มเงินคงคลัง ทำให้ราคาทองคำถูกกดดันทางเทคนิค ขณะที่มอร์แกน สแตนเลย์ ยังคงประมาณการราคาทองเฉลี่ยปี 52 ที่ 1,000 เหรียญต่อออนซ์
และลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นลง เนื่องจากตลาดปรับตัวมาทดสอบระดับสูงสุด โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงให้ลดน้ำหนักการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ซึ่งยังคงกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่อเนื่อง และอาจปรับลดลงอีกจนถึงช่วงกลางปี 52
นายชัยพร เผยว่า นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัทฯ ได้รายงานเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่สุทธิเล็กน้อยในไตรมาส 1 ของปี 2552 ซึ่งฝ่ายวิจัยบล.บัวหลวงคาดว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะเคลื่อนไหวในกรอบระดับ 470 จุด หรือคิดเป็นมูลค่าเทียบกับมูลค่าทางบัญชี 1 เท่าโดยมีแนวรับที่ 420 จุด หรือคิดเป็นมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีอยู่ 15%
สำหรับรูปแบบพอร์ตการลงทุนที่ BLS จัดให้ลูกค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดย กลุ่มแรกพอร์ตหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรือการลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมเน้นลงทุนในสินทรัพย์ซึ่งมีความผันผวนของผลตอบแทนและความเสี่ยง จากการขาดทุนต่ำค่อนข้างต่ำ โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของพอร์ตการลงทุน จะอยู่ในราว 4.36% ต่อปี
กลุ่มที่สอง พอร์ตที่มีความเสี่ยงปานกลางจะกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งมีความผันผวนของผลตอบแทนสูงกว่าแบบแรก โดยรวมถึงการลงทุนในตลาดหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์และทอง และคาดหวังอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.87% ต่อปี
กลุ่มที่สาม พอร์ตที่นักลงทุนสามารถรับความผันผวนของผลตอบแทนได้สูง เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนมากขึ้น มีอัตราผลตอบแทนคาดหวังที่ 6.53% ต่อปี เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาดทุนได้ 16.15% ถึงกำไรสูงถึง 29.1% อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนและความเสี่ยงของพอร์ตรูปแบบนี้คาดการณ์ได้ยากเพราะมีความผันผวนของผลตอบแทนสูง