ไอเอ็นจี กรุ๊ป เปิดเผยรายงานการสำรวจภาวะการลงทุนรายไตรมาสว่า ความเชื่อมั่นของการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 65 ในไตรมาส 1/52 จาก 59 ในไตรมาส 4/51 แต่ลดลง 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยังคงจัดอยู่ในระดับต่ำ (Pessimistic)
ขณะที่ฮ่องกงและสิงคโปร์มีดัชนีความเชื่อมั่นของการลงทุนในระดับต่ำที่สุด(Very Pessimistic) ในภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ในไตรมาส 1/2552 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนในประเทศจีนและอินเดีย เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในไตรมาส 1/2552
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในไตรมาส 1/52 นักลงทุนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังอาจสั่นคลอนได้หากสภาพเศรษฐกิจในอนาคตตกต่ำลง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการลดการจ้างงาน และการมีรายได้จากต่างประเทศลดลง สืบเนื่องจากการทรุดตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของเงินตราต่างประเทศและการจ้างงาน
ประเด็นความวิตกกังวลที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนไทย ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ตกต่ำลง (13%)และสภาวะเศรษฐกิจไทย(61%) โดยนักลงทุนไทย 63% ยังกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในหน้าที่การงาน ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/51
นอกจากนี้ นักลงทุนไทยมิได้มีความเชื่อมั่นสูงมากนักว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะสามารถรักษาระดับความเติบโตทางเศรษฐกิจของปีนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่คลี่คลายชัดเจน ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค
รูปแบบการลงทุนที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนไทยในไตรมาส 1/52 นั้น 99% ของนักลงทุนไทยมีการถือครองเงินสด, 45% ลงทุนในทองคำ เทียบกับ 50% ในไตรมาสที่ 4/51, 39% ลงทุนในหุ้นไทย เพิ่มขึ้นจาก 20% ในไตรมาส 4/51, 8% ลงทุนในเงินตราต่างประเทศเท่ากับไตรมาส 4/51 และ 37% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัยในไทย (เป็นการซื้อเพื่อการลงทุน) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน
ขณะที่ ในไตรมาส 2/52 นักลงทุน 11% กล่าวว่าจะมีการถือครองเงินสด/เงินฝากมากขึ้น ขณะที่ 5% ระบุว่าจะลงทุนในทองคำมากขึ้น และ 2% ประกาศลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัย เพราะคาดว่าราคาจะลดต่ำลงอีก
ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยซึ่งบ่งชี้สภาวะตลาดโดยรวมของประเทศ มีดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนลดลงเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 1/52 โดยนักลงทุนไทย 60% เชื่อว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัยจะลดลงในไตรมาส 2/52 บ่งชี้ถึงความแปรปรวนของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อไป
นายอลัน ฮาร์เด็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจี อินเวสท์เม้นท์ แมเนจเม้นท์ เอเชีย/แปซิฟิก กล่าวว่า จีนและอินเดียเป็นตลาดที่มีการขับเคลื่อนสำคัญของเอเชีย โดยมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะยังคงเข้ามาช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในกรณีที่จำเป็นต่อไป และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาของจีนเป็นแม่แบบการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ดียิ่ง และเมื่อผนวกกับตลาดหลักทรัพย์อันแข็งแกร่งของจีน จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นการลงทุนในจีนเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด
นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อในจีนได้ขยายตัวอย่างมาก โดยมีดัชนี PMI (Purchasing Managers’ Index) เพิ่มขึ้นสู่ระดับที่สูงกว่า 50 ซึ่งเราเชื่อว่าผู้บริโภคยังคงซื้อบ้าน ซื้อรถ ทั้งหมดนี้ คือ ปรากฏการณ์เชิงบวกและตอกย้ำว่า ตลาดจีนมีการเติบโตอย่างสดใส