นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผู้จัดการ บมจ.เอสวีไอ(SVI)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตัดสินใจชะลอการเดินเครื่องผลิตโรงงานแห่งที่ 3 ที่บางกระดี ซึ่งเป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วนครบวงจรที่มีกำหนดเริ่มผลิตในไตรมาส 1/52 แม้ว่าบริษัทจะใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 261 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ในขณะเดียวกันบริษัทก็จะพยายามลดต้นทุนให้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการปรับด้วยการหันมาซื้อชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ในแถบเอเชีย เช่น ประเทศจีนแทนยุโรป ซึ่งช่วยลดต้นทุน(COST)ได้ประมาณ 5% แต่ยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายไล่พนักงานออก
"ที่ผ่านมามีลูกค้าถามเราเยอะถึงสถานการณ์การเมืองว่าจะมีอีกไหม ทีแรกในช่วงม.ค-ก.พ. ยังดีอยู่ แต่พอมาเจอเสื้อเหลืองเสื้อแดงในเดือน เม.ย.แย่ไปเลย ลูกค้าเห็นก็เลยช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้น การประคองตัวด้วยการดูแลเงินสดอย่างรัดกุม ไม่ลงทุนใหม่ เพราะจะทำให้เกิดค่าใช้จ่าย ดีที่สุดโรงงานที่มีอยู่ยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ขณะที่โรงงานในจีนก็ไม่ได้มีปัญหาและกลับเข้าสู่ปกติแล้ว และยืนยันว่าผมไม่มีการไล่พนักงานออก"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาเศรษฐกิจโลกและเหตุการณ์ด้านการเมืองของไทย อาจจะทำให้เห็นภาวะการหดตัวของออเดอร์ต่อเนื่องในไตรมาส 2/52 หลังจากไตรมาส 1/52 รายได้ลดลง 10% เมื่อเทียบกับรายได้ในไตรมาส 4/51(q-o-q)ที่มีรายได้ 1,826 ล้านบาท แต่ยังทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/51(y-o-y)
ดังนั้น แนวโน้มรายได้ของบริษัทในปีนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะลดลงจากเป้าหมายที่วางไว้ 210 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่กำไรสุทธิก็จะลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่อีก 2 รายในแถบตะวันออกกลางเพื่อทดแทนลูกค้าหลักเดิมในสหรัฐและยุโรปที่ชะลอคำสั่งซื้อสินค้า และบางรายสั่งซื้อในปริมาณที่น้อยลง โดยทยอยปรับลดลงมาตั้งแต่ไตรมาส 4/51 ถึงปัจจุบัน จากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ความต้องการอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนลดลง
"ก็ยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังมากแม้ปัจจุบันบริษัทจะมีลูกค้าแถบ Middle East แล้ว 1 รายที่จะสั่งออเดอร์เฉลี่ย 5-10 % ของยอดขายทั้งปี ซึ่งถือว่ามาก"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ราคาหุ้น SVI ล่าสุดอยู่ที่ 1.25 บาท ลดลง 0.02 บาท (-1.57%)เมื่อ 15.39 น.