นายดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งว่าเกิดจากการอิ่มตัวในการทำงานที่ทำมาถึง 17 ปี 9 เดือนในกลุ่มชินคอร์ป ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือกดดันในการลาออกครั้งนี้ ทั้งจากกรณีการถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์"ดีสเตชั่น"และ วิดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"ผมผ่านเหตุการทางการเมืองมาหลายยุคหลายสมัย และโดนเข้าไปเกี่ยวข้องเสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมา แม้จะวุ่นวายมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจลาออก"นายดำรงค์ แถลงในการประกาศลาออกจากตำแหน่ง
นายดำรงค์ กล่าวยืนยันว่า หลังเหตุการความวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)และมีการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทาง THCOM ก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย โดยการตัดสัญญาณดีสเตชั่นแม้จะยังมีสัญญากันอยู่
และหากมีการยกเลิกพ.ร.ก.ฯ บริษัทก็พร้อมจะเปิดให้ทางดีสเตชั่นใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมเพื่อเผยแพร่สัญญาณตามปกติ
นายดำรงค์ กล่าวว่า ได้แจ้งความประสงค์ที่จะลาออกจากตำแหน่งให้คณะกรรมการบริษัททราบมากว่า 1 เดือนแล้ว ก่อนการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 เม.ย.คาดว่าคณะกรรมการบริษัทจะสรรหาผู้ที่มารับตำแหน่งแทนได้ก่อนการลาออกจะมีผลในวันที่ 13 พ.ค.จ โดยส่วนตัวได้เสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมให้คณะกรรมการพิจารณาแล้ว ส่วนจะเลือกใครคงไม่สามารถคาดเดาได้
ทั้งนี้ หลังการลาออกแล้วคงจะขอพักผ่อนสักระยะหนึ่งแล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ ซึ่งโดยมารยาทแล้ว คงไม่สามารถทำธุรกิจที่เกี่ยวกับดาวเทียมได้
อย่างไรก็ตาม นายดำรงค์ กล่าวว่า แม้จะลาออกแล้วแต่ก็จะยังถือหุ้น THCOM ที่มีอยู่ 0.8% หรือประมาณ 10 ล้านหุ้นต่อไป โดยขณะนี้ไม่มีแผนจะขายหุ้น เพราะมองเห็นความเติบโตและอนาคตของธุรกิจ และเชื่อมั่นในรากฐานที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะปีนี้จะเป็นปีที่ iPSTAR เข้าสู่จุดคุ้มทุน ทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะพลิกกลับมามีกำไรได้
ส่วนแผนงานรองรับดาวเทียมไทยคม 2 ที่จะหมดอายุกลางปี 53 เชื่อว่าบริษัทจะไม่ลงทุนสร้างดาวเทียมเอง เนื่องจากมีภาระอีก 2 หมื่นล้านบาทจากการลงทุนสร้างดาวเทียมไทยคม 5 ดวงที่ผ่านมา จึงเห็นว่าควรจะชะลอการลงทุนออกไปสักพักเพื่อไม่ให้กระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัท และเห็นว่าการเช่าใช้ดาวเทียมดวงอื่นมาใช้งานก่อนน่าจะคุ้มกว่า