นายศิริธัช โรจนพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีฮอร์ส (SH) เปิดเผยว่า ในปี 52 จะมีผลขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อนที่มี 22.57 ล้านบาท เพราะในปี 52 บริษัทได้ขายธุรกิจอาหารทะเลกระป๋องและอาหารทะเลแช่แข็ง ขณะที่ธุรกิจเอทานอลก็ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างโรงงาน ดังนั้น ก็จะมีรายได้จากการขายธุรกิจอาหารดังกล่าว และรายได้จากการขายมันสำปะหลังอีกเล็กน้อยซึ่งปีก่อนทำรายได้ 11 ล้านบาท จากพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังของบริษัท 3.5 พันไร่
โดยระหว่างนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประมูลขายธุรกิจอาหารทะเลกระป๋องและอาหารทะลเช่แข็ง ซึ่งบริษัทได้เปิดประมูลไปแล้วคาดว่าประมาณต้นเดือนพ.ค.นี้จะรู้ผลการประมูล และสิ้นสุดดีลและมีรายได้เข้ามาในเดือนมิ.ย.นี้ ทั้งนี้ สินทรัพย์ของธุรกิจดังกล่าวประมาณมูลค่า 500 ล้านบาท
"ไม่น่าจะขายขาดทุน เพราะเราก็หวังจะมีกำไร เราขายออกไปเพราะเราไม่ถนัด ที่ขาดทุนมาตลอดก็เพราะธุรกิจนี้ ...เรามั่นใจธุรกิจเอทานอลดีแน่ ตอนนี้ราคาปรับขึ้นไป" นายศิริธัช กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าโรงงานเอทานอล เฟสแรก จะสร้างเสร็จในไตรมาส 3 ปี 53 และรับรู้รายได้และกำไร จะส่งผลให้บริษัทเริ่มพลิกมีกำไร แต่คาดว่าคงยังมีกำไรไม่มาก
นายศิริธัช คาดว่าบริษัทจะสามารถจ่ายปันผลในปี 54 ที่คาดว่าจะทำกำไรได้เพิ่มขึ้น และสามารถล้างขาดทุนสะสมของบริษัทได้หมด โดยสิ้นปี 51 บริษัทขาดทุนสะสม จำนวน 583.66 ล้านบาท โดยจะใช้กำไรจากการดำเนินการล้างขาดทุนสะสม
โรงงานเอทานอล เฟสแรก จะมีกำลังการผลิต 6.5 แสนลิตร/วัน โดยใช้มันสำปะหลังประมาณ 4 พันตันที่บริษัทได้ทำสัญญารับซื้อจากชาวไร่ และคาดว่าจะทำกำไรได้ประมาณ 1 พันล้านบาทต่อปี
ส่วนเงินลงทุนใช้จำนวน 4 พันล้านบาท นายศิรธัช กล่าวว่า บริษัทกู้เงินจากธนาคาร ประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งในเดือนพ.ค.นี้น่าจะรู้ผล ส่วนอีก 1 พันล้านบาท มาจากเงินเพิ่มทุน
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น บริษัท Eternal Energy จำกัด (มหาชน) และใช้ชื่อย่อว่า "EE" หลังขายธุรกิจอาหารเสร็จสมบูรณ์ บริษัทจะเปลี่ยนมาดำเนินธุรกิจพลังงานเพียงอย่างเดียว