ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: หุ้นกลุ่มเหมือง-พลังงานหนุน FTSE 100 ปิดพุ่ง 137.76 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday April 25, 2009 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่าสองเดือนเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากที่บ. เจพีมอร์แกน คาเซโนเว จำกัด แนะนำให้ซื้อหุ้นกลุ่มเหมือง ประกอบกับหุ้นกลุ่มผู้ผลิตพลังงานเดินหน้าขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 137.76 จุด หรือ 3.4% แตะที่ 4,155.99 จุด

โบรกเกอร์เพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มเหมืองเป็น “overweight" โดยให้เหตุผลว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจโลกหลายตัวพิสูจน์ว่าเศรษฐกิจกำลังจะเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนบ่งชี้ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กำลังจะกลับสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง

หุ้น Xstrata Plc เป็นแกนทะยานขึ้น 14% ส่วนหุ้น Kazakhmys Plc ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของประเทศคาซักสถาน พุ่ง 8.2% หลังคาเซโนเวเพิ่มความน่าลงทุนของหุ้นที่ “outperform" ขณะที่ BHP Billiton Ltd. บริษัทเหมืองใหญ่สุดของโลก เดินหน้า 3.6%

ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ไต่ขึ้น 1.93 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.55 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ แตะที่ 51.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

หุ้น Royal Dutch Shell Plc ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป ไต่ขึ้น 5.5% และ BP Plc บริษัทน้ำมันอันดับ 2 เพิ่มขึ้น 4.8%

หุ้นบริษัทยา AstraZeneca Plc บวก 5.2% หลังจากยาต้านมะเร็ง Iressa ของบริษัทได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรป

โรเบิร์ต กริฟฟิธส์ นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกน คาเซโนเว กล่าวว่า ด้วยความคาดหวังที่ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นในกลุ่ม cyclical sector (หุ้นที่มีโอกาสฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ) จึงฟื้นขึ้นมาในช่วงหลายสัปดาห์นี้ และคาดว่าตลาดหุ้นจะแข็งแกร่งเป็นวงกว้างต่อไปอีกหลายเดือน

นอกจากนี้ ตลาดลอนดอนยังได้รับปัจจัยหนุนจากการรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของฟอร์ด มอเตอร์ โค บริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ซึ่งเผยว่าบริษัทขาดทุน 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ 60 เซนต์ต่อหุ้น ในไตรมาสแรกปีนี้ เทียบกับกำไรสุทธิ 70 ล้านดอลลาร์ หรือ 3 เซนต์ต่อหุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยในแถลงการณ์ว่า บริษัทใช้เงินสดไป 3.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินที่บริษัทได้รับในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ อย่างไรก็ดี ฟอร์ดกล่าวว่า จำนวนเงินที่ใช้ไปในช่วงเวลาดังกล่าว ยังน้อยกว่าจำนวนที่ใช้ไปในช่วงไตรมาสสี่ปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ