GFPT ยิ้มรับผลดีข่าวไข้หวัดหมูมีสิทธิช่วยดันยอดขาย Q2/ทั้งปีอาจโต 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 28, 2009 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.จีเอฟพีที(GFPT)ผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่รายใหญ่ยิ้มแต้ตอบรับข่าวไข้หวัดหมูแพร่ระบาดในทวีปอเมริกาดันราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นและปริมาณการซื้อขายหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่บริษัทคาดยอดขาย Q2/52 ออกมาดีกว่า Q1/52 แน่นอนเพราะผู้บริโภคตื่นตัวและผวากับโรคใหม่ แต่ยังขอคงเป้ารายได้ทั้งปีที่คาดว่าจะทรงตัวจากปี 51 ที่ 1.1 หมื่นล้านบาทไว้ก่อน แม้จะมองว่าหากทุกอย่างเป็นใจมีปัจจัยบวกสนับสนุนก็มีสิทธิจะช่วยผลักดันให้ยอดขายปีนี้เติบโตได้ถึง 10% ซึ่งก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว

น.ส.จุฑามาส อิงโพธิ์ชัย ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ GFPT เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การที่วานนี้ราคาหุ้น GFPT ปรับตัวสูงขึ้น และมีปริมาณการซื้อขาย 1,643,100 หุ้น หนาแน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา จากกระแสข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโก หรือที่เรียกว่า Swine Flu หรือไข้หวัดหมู ทำให้นักลงทุนคาดว่าการส่งออกไก่ของไทยจะได้รับผลบวกจากความกังวลในการบริโภคเนื้อหมู

"ยอมรับว่าวานนี้ราคาหุ้นขึ้น ส่วนปริมาณซื้อขายหนาแน่นที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา น่าจะเป็นการรับผลดีจากปัจจัยเรื่องไข้หวัดหมู เข้าใจผู้ลงทุนมองว่าเหมือนกับเป็นโอกาสในการลงทุนในช่วงสั้นๆ นี้"น.ส.จุฑามาส กล่าว

น.ส.จุฑามาศ กล่าวว่า ความแตกต่างของการเกิดโรคระบาดครั้งนี้กับการระดบิดของไข้หวัดนกคือครั้งนี้เกิดการระบาดในคนอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดเกิดการ Shock แต่เข้าใจว่าแต่ละประเทศก็มีประสบการณ์จากไข้หวัดนกมาแล้ว ทำให้เชื่อว่าการรับมือกับปัญหาไข้หวัดหมูในรอบนี้ก็น่าจะดีกว่าในอดีต เพียงแต่อาจทำให้คนยังไม่แน่ใจ จึงเปลี่ยนจากรับประทานหมูมารับประทานไก่หรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่นแทน

"ตอนที่เกิดหวัดนก ปี 2004-2005 เรากระทบเยอะมาก เพราะลักษณะอุตสาหกรรมส่งออกไก่ จะเป็นส่งออกเนื้อไก่สด พอเกิดหวัดนกขึ้นมาอุตสาหกรรมไม่สามารถส่งออกได้ทั้งหมด เพราะสินค้าในตลาดแทบจะไม่มีไก่สุกเลย ยอดส่งออกไก่สุกน้อยมาก ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบโดยตรงและทำให้รายได้ลดลงค่อนข้างเยอะ

ตั้งแต่นั้นมาผู้ประกอบการก็ต้องปรับตัวสามารถส่งออกสินค้าสุก พัฒนา Knowhow เรื่องการทำสุก มีช่องทางการจัดจำหน่ายของลูกค้าที่มั่นคงทำให้ปรับตัวขึ้นมาได้แล้วก็กลับเข้ามาแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ ดังนั้น เชื่อว่าหากเกิดหวัดนกรอบใหม่ผู้ประกอบการรวมทั้งเราสามารถรับมือได้แน่นอน นอกจากนี้สินค้าของเรา GFPT ได้มาตรฐาน ฟาร์มของเราเป็นระบบปิดได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ ขนาดคู่ค้าของเราที่เป็นญี่ปุ่นเองก็มั่นใจในสินค้าของ GFPT"น.ส.จุฑามาศ กล่าว

น.ส.จุฑามาส กล่าวว่า ในระยะสั้นเชื่อว่ายอดขายในไตรมาส 2/52 น่าจะดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 ส่วนจะดีกว่าไตรมาส 2/51 หรือไม่ยังบอกไม่ได้ เพราะปีนี้มีเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจโลกเป็นประเด็นสำคัญด้วย เพราะประเทศคู่ค้าของเรามีการนำเข้าลดลงในช่วงไตรมาส 4 ค่อนข้างมาก ซึ่งจะเห็นชัดเจนในไตรมาส 1/52 ซึ่งเป็น Low Season อยู่แล้ว แต่การชะลอซื้ออาจจะนานขึ้นเนื่องจากคู่ค้ามีปัญหาสภาพคล่องและอาจต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2/52

ส่วนรายได้ปี 52 ทั้งปี ณ ตอนนี้บริษัทยังคงไม่มีการปรับเป้าหมายที่คาดว่ารายได้จะทรงตัวจาก 1.1 หมื่นล้านบาทในปี 51 แม้จะมีความหวังว่าหากในระยะต่อจากนี้ปัจจัยบวกทุกอย่างสนับสนุนก็มีโอกาสที่รายได้ของบริษัทในปีนี้อาจจะเติบโตได้ราว 10% ซึ่งก็ถิอว่าน่าพอใจมาก

"ณ ตอนนี้ในระยะยาวเรายังคง Maintain รายได้ปี 52 เท่ากับปีที่แล้วที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพราะไม่รู้ว่าปัจจัยเรื่องไข้หวัดหมูนี้จะเยอะและนานแค่ไหน ที่สะท้อนของเมื่อวานนี้น่าจะเป็นแค่รับข่าวในช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่สำหรับผลประกอบการของ GFPT เราก็จะพยายาม Maintain ให้ได้อย่างปีที่แล้ว แต่ถ้าหลายอย่างเป็นใจ ทุกอย่างเป็นบวก การเติบโตจากปีที่แล้ว 10% ก็ถือดีแล้ว"น.ส.จุฑามาศ กล่าว

ปัจจุบัน GFPT ส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่ไปญี่ปุ่น 60% และอีก 40% เป็นตลาดในแถบยุโรป แม้จะชะลอคำสั่งซื้อไปบ้างในไตรมาส 1/52 แต่เรายังหวังว่าในไตรมาส 2-ไตรมาส 3/52 คู่ค้าอาจจะย้อนกลับมาซื้อ เพราะคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ซื้อเลย โดยGFPT ตั้งเป้าปี 52 ส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่เพิ่มขึ้น 10-15% จาก 1.5-1.6 หมื่นตันในปี 51

"โชคดีที่เราไม่มีการส่งออกไปทวีปอเมริกา เพราะอเมริกาเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมนี้อยู่แล้ว ขายเองกินเอง"น.ส.จุฑามาศ กล่าว

สำหรับแนวโน้มนยอดขาย Q1/52 คาดว่าจะออกมาพอๆ กันกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่าภาวะเศรษฐกิจอาจจะส่งผลกระทบในแง่ภาพรวม แต่เราพยายาม Maintain และเราก็มีคู่ค้าหลักทำให้ผลกระทบเบาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ