ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 471.43 จุด ลดลง 3.56 จุด(-0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 10,143 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดในแดนบวกช่วงสั้น โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 480.35 จุด แต่ดัชนีก็ค่อยๆ อ่อนตัวลง และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 471.25 จุด
นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แม้ว่าในช่วงเช้าจะมีทิศทางของการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ค่อนข้างจะจำกัดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหมที่พบการระบาดจากประเทศเม็กซิโก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบอยู่บ้าง แม้ว่าผลโดยตรงอาจจะไกลตัวประเทศไทย แต่ก็มีผลกระทบที่ผ่านเข้ามาเข้ามาในตลาดหุ้นบ้านเรา
ให้จับตาดูเรื่องของราคาน้ำมัน เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนคาดว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะถึงจุดต่ำสุดก็คือสิ้นปีนี้ ก็เริ่มจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นมาอยู่ประมาณ 60 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ แต่จากปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทำให้หุ้นธุรกิจท่องเที่ยวในต่างประเทศลดลงไป เพราะตลาดเกรงว่าจะกระทบธุรกิจโรงแรม ขนส่งทางเรือ และสายการบิน
ณ จุดนี้ทุกคนประเมินว่าที่การที่โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดไปหลายจุด ความรุนแรงอาจจะไม่เท่ากับโรคซาร์สในอดีต แต่ถ้าเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2545 ในช่วงนั้นมีผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวสายการบิน ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ปรับตัวลดลง จึงมองกันไปถึงว่าหากมีผลกระทบเกิดขึ้นกับการขนส่ง การส่งออก และเดินทางการท่องเที่ยวจริงอย่างที่กังวล ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจที่มองว่าน่าจะฟื้นตัวในสิ้นปีนี้ อาจต้องล่าช้าออกไป รวมทั้งโอกาสที่ราคาน้ำมันจะฟื้นตัวก็จะล่าช้าไปด้วย
"ราคาน้ำมันลดน่าจะเป็นผลดี แต่อย่าลืมว่าราคาน้ำมันกับตลาดหุ้นบ้านเรา น้ำหนักในกลุ่มพลังงานจะมากที่สุด ก็อาจจะมีผลในช่วงนี้จะต้องระมัดระวัง แม้จะไกลตัวว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง เราไม่ได้เจอโรคระบาด แต่ในแง่ผลกระทบทั่วโลกตอนนี้เราเห็นหุ้นธุรกิจการบินถูกเทขายหนัก ก็ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างบ้านเราก็เริ่มให้ระมัดระวัง ทั้ง AOT THAI กลุ่มโรงแรม"นายวีระชัย กล่าว
โดยรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้อาจจะมีการผันผวนปรับลงบ้างเนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเราตอนนี้มีการตอบรับปัจจัยบวกไปเยอะพอควรจนดัชนีตอนนี้เข้าเขตภาวะซื้อมากเกินไปแล้ว และ PE ตลาดบ้านเราตอนนี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ส่วนที่เห็นแรงซื้อต่างชาติเข้ามาในช่วงนี้ราว 1,000 กว่าล้านบาท คิดว่าเป็นการแค่ซื้อและไปชดเชยที่ลดลงไปบางส่วนเท่านั้นไม่น่าจะมีผลต่อตลาดมากนัก
กรอบแนวต้าน 480 จุด แนวรับ 470 จุด น่าจะแกว่งตัวแถวๆ นี้ ช่วงบ่ายอาจจะเห็นแรงขายเพิ่มขึ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,389.04 ล้านบาท ปิดที่ 181.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 804.65 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
BAY มูลค่าการซื้อขาย 728.86 ล้านบาท ปิดที่ 10.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 618.44 ล้านบาท ปิดที่ 51.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 593.39 ล้านบาท ปิดที่ 57.75 บาท ลดลง 0.25 บาท