LH คาดปี 52 รายได้-กำไรใกล้เคียงปีก่อน/เน้นเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์-คอนโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 28, 2009 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH)คาดว่า รายได้และกำไรในปีนี้จะออกมาใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 1.7 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 3.4 พันล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่นิ่ง ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทลดลง

เห็นได้จากยอดขายในเดือนม.ค. ไม่มีเข้ามาเลย แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นบ้างในเดือน ก.พ.และมี.ค. และกลับมาเลวร้ายอีกครั้งในเดือนเม.ย.จากสถานการณการเมือง จึงคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/52 ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 1/51

“ในปีนี้แค่เรารักษารายได้และกำไรให้เท่าเดิมกับปีก่อนก็ถือว่าดีแล้ว เพราะดูอย่างจีดีพี ก็ติดลบ ซึ่งเป็นไปตามที่ผมเคยคาดการณ์ ว่าจะติดลบ 6% ซึ่งเกิดจากเศรษฐกิจโลกและการเมืองอีก แต่จริงๆแล้วประเทศไทยมีโอกาสที่จะฟื้นได้โดยการหารายได้เพิ่ม"นายอนันต์ กล่าว

ดังนั้น บรัษัทจึงได้มีการปรับแผนโดยการหันมาเพิ่มสัดส่วนโครงการทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 25% จาก 15% ในปีก่อน เพื่อกระจายความเสี่ยง และจากการที่บริษัทสร้างบ้านเสร็จก่อนขายทำให้การรับรู้รายได้ช้าลง บริษัทจึงลดสัดส่วนโครงการบ้านเดี่ยวเหลือ 75% จาก 85% ในปีก่อน

ในปีนี้จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมในส่วนที่เหลือ 2 โครงการคือ โครงการแบงค็อกตากสินที่มีมูลค่า 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ที่เหลืออยู่ 20% และโครงการเดอะรูม สุขมุวิท 64 มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท รับรู้รายได้ส่วนที่เหลือ 60% ขณะที่เดียวกันยังมีโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่ลาดพร้าว มูลค่า 3 พันล้านบาท ที่จะเริ่มทยอยรับรู้ในปีนี้

นายอนันต์ กล่าวว่าจากปัญหาเศรษฐกิจและการมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนและแหล่งเงินทุน บริษัทจึงอยู่ระหว่างการพิจารณาออกหุ้นกู้ 2-3 พันล้านบาทจากวงเงินหุ้นกู้ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้ว 1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะเสนอขายได้ในปลายปี52 หรือต้นปี 53 เพื่อนำเงินไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 7 พันล้านบาทและบางส่วนนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะนำธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย ซึ่งเป็นบริษัทลูก(ถือ 42.12%) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 53 ตามแผนเดิมต่อไป

ด้านนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการและรองกรรมการ LH กล่าวยอมรับว่า บริษัทจะพยายามประคองรายได้และกำไรให้ใกล้เคียงปีก่อน รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะรักษาไว้เท่ากับปีก่อนที่ 32% ด้วยการควบคุมสต็อกและสำรวจตลาดและความต้องการก่อนเปิดตัวโครงการใหม่ และยืนยันว่าจะยังไม่เห็นการปรับเพิ่มราคาขาย เพราะราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างก็ไม่ได้ปรับขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่บริษัทยังคงเดินตามแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ที่ 12 โครงการมูลค่ารวม 1.63 หมื่นล้านบาท แต่จะหันไปลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะงบการตลาดที่จะปรับลดลง

ส่วนการเข้าถือในบริษัทลูกนั้น ส่วนตัวมองว่ามีโอกาสทั้งเพิ่มสัดส่วน และลดสัดส่วนการลงทุน ทั้งนี้ บริษัทลูกของบริษัท ได้แก่ บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์โฮปโปร (HMPRO), บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (KH) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาล เกษมราษฎร์, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย ซึ่งปี 51 สร้างรายได้ให้กับบริษัทกว่า 1 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ