ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) ที่แพร่ระบาดในขณะนี้จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายหลังจากมีรายงานว่าแบงค์ ออฟ อเมริกาและซิตี้กรุ๊ปอาจต้องระดมทุนเพิ่ม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วงลง 70.61 จุด แตะที่ 4,096.40 จุด
ไรอัน เคแอล นักวิเคราะห์จาก Betsfortraders.com กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงและมีแรงเทขายเข้ามาในหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกจะทำให้ดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์หดตัวลงและกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง
สถานีโทรทัศน์ CBS รายงานว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกได้แพร่กระจายไปยัง 7 ประเทศแล้วในขณะนี้ โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อแล้ว 64 ราย, นิวซีแลนด์ 11 ราย, แคนาดา 6 ราย, อังกฤษ 2 ราย, สเปน 2 ราย และอิสราเอล 2 ราย ส่วนที่เม็กซิโกมีผู้ติดเชื้อรวม 1,995 รายและยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 152 ราย
อลัน จอห์นสัน รมว.สาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษเตรียมความพร้อมตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ และเขาได้เสนอต่อรัฐบาลให้ใช้ยาต้านไวรัสที่มีอยู่ในสต็อกเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ปรากฏอาการของโรค โดยจนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยที่เข้าข่ายต้องสงสัยติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก 14 ราย ซึ่งทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ทางการก็กำลังเฝ้าติดตามอาการของบุคคลเหล่านี้และผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างใกล้ชิด
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า แบงค์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป อาจต้องระดมทุนเพิ่มเมื่อกระทรวงการคลังประกาศผลการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) โดยหุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 2% หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดร่วง 4.7%
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นเอ็กซ์สตราต้าปิดลบ 6.1% และหุ้นแองโกล อเมริกันปิดร่วง 5.6% หลังจากราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกร่วงลง