นายวิลเลี่ยม จอห์น วิลฟอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) เปิดเผยว่า บริษัทจะพยายามประคองรายได้ในปีนี้และปีหน้าให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 51 ที่รายได้อยู่ที่ 1,805.53 ล้านบาท เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถประเมินได้ แต่จะให้ความสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายและการรักษา cash flow ที่มีอยู่เพื่อทำให้สถานะของบริษัทดีขึ้น โดยได้ตั้งเป้าที่จะลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ 68 ล้านบาท ซึ่งหากสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ก็หวังว่าจะพลิกมามีกำไร
"บริษัทพยายามรัดเข็มขัดโดยเฉพาะการลดค่าใช้จ่ายเพราะจะช่วย save เราได้เพราะเราไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร รายได้ถ้าทำได้ดีกว่าปีก่อนก็ถือว่าโชคดีไป แต่แค่ประคองก็ดีแล้ว" นายจอห์น กล่าว
สำหรับในปีนี้บริษัทคงจะไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่จะเป็นลักษณะการขยายเฟสต่อเนื่องมากกว่าจากปัจจุบันที่บริษัทเปิดดำเนินการอยู่ 4 โครงการ ประกอบด้วย โกลเด้น เฮอริเทจ, โกลเด้น เลเจนด์, โกลเด้น นครา และ แกรนด์ โมนาโค และอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ โครงการสาทร สแควร์ และ โครงการ W Bangkok Hotel
ทั้งนี้ 2 โครงการหลังจะรับรู้รายได้เมื่อโครงการเสร็จสิ้นในปี 54 ซึ่งก็จะหนุนให้สถานการณ์ในส่วนของรายได้ของบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นมาก แต่ในส่วนของการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดที่บริษัทมีแลนด์แบงก์อยู่ไม่ว่าจะเป็นจ.เชียงรายหรือจ.อุตรดิตถ์คงยังไม่เห็นในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ภาวะที่ไม่เอื้อประกอบกับคงจะโฟกัสการขายโครงการในกทม.มากกว่า
"ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติทั้งภาครัฐบาล สถาบันการเงิน การที่บริษัททบทวนแผนการลงทุนและระมัดระวังอย่างรอบคอบ ถือว่าสำคัญ และเมื่อทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติ การที่เรามีโครงการที่อยู่ชั้นในจะได้เปรียบ" นายจอห์น กล่าว