นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) กล่าวว่า ราคาไก่เป็นขยับขึ้นมา 36-37 บาท/กก.ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน จากเดือน มี.ค.ที่ลดลงไปต่ำที่ 28-29 บาท/กก.เนื่องจากราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นและความหวาดระแวงของผู้บริโภคเรื่องโรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกที่เป็นชนิดใกล้เคียงกับที่พบระบาดในหมู นอกเหนือจากที่ปริมาณไก่ในตลาดน้อยลง
ขณะเดียวกัน ยอดส่งออกไก่แปรรูปในตลาดต่างประเทศก็เพิ่มเล็กน้อย เช่น ในอังกฤษ แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้นไม่มาก จึงยังต้องติดตามดูสถานการณ์อยู่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดีทั่วโลก ทำให้บริษัทไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตมาก ขณะที่ความต้องการก็เพิ่มไม่มากนัก ทำให้ไม่มีสต็อกเหลือ
"ไก่ในประเทศก็ดีขึ้นมาหน่อย คือ ก่อนหน้าราคาหมูก็แพง และบางส่วนก็ระแวง ช่วงระยะสั้นนี้ไก่ก็ได้อานิสงส์ตรงนี้ ยอดขายไก่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเริ่มเห็นตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว...ส่วนส่งออกถ้าทั่วโลกไม่กินหมู ก็คงหันมากินไก่เยอะขึ้น แต่ต้องดูอีกระยะหนึ่ง"นายธีรศักดิ์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้าส่งออกไก่แปรรูปจำนวน 1 แสนตัน เพิ่มขึ้นราว 10% จากปีก่อนที่ส่งออก 9 หมื่นตัน แต่ราคาส่งออกอ่อนตัวกว่าปีก่อนราว 15% จึงมีแนวโน้มว่ายอดขายรวมปีนี้จะลดลงจากปีก่อนตามราคาขาย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกและปรับราคาลงตามต้นทุนวัตถุดิบที่ราคาลดลงราว 10% จากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม จะเห็นแนวโน้มชัดเจนของผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/52 และไตรมาส 3/52 เพราะไตรมาส 1/52 ยังมีออเดอร์ค้างจากปลายปีก่อน
"ยังตอบไม่ได้ว่ามีโรคไข้หวัดหมูแล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่ม เพราะปัญหาใหญ่อยู่ที่กำลังซื้อ การจะปรับขึ้นราคาทำได้ยาก เพราะเวลาเศรษฐกิจของแพงก็ขายยาก ราคาก็ต้องเหมาะสมกับตลาด...ยังไงแล้วปีนี้เราต้องประคองตัวไม่ให้ประสบภาวะขาดทุน มาร์จิ้นต่ำลง อาตัวรอดได้ก็บุญแล้ว"นายธีรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ CPF ส่งออกไก่แปรรูปไปตลาดหลัก คือ ยุโรป สัดส่วนกว่า 50% ญี่ปุ่นประมาณ 35% ส่วนที่เหลือเป็นประเทศในเอเชีย
ส่วนการส่งออกเนื้อสุกรไปยังตลาดญี่ปุ่นเป็นสุกรแปรรูป และฮ่องกงเป็นหมูสดนั้น ขณะนี้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบหรือระงับการส่งออก เพราะผู้ซื้อเชื่อมั่นในมาตรฐานคุณภาพของบริษัท และสาเหตุของการแพร่ระบาดก็ไม่ได้เกิดมาจากฟาร์มหมู