หุ้น KCE บวกแรง 21.51% มาอยู่ที่ 1.13 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท เมื่อเวลา 14.48 น.โดยเปิดตลาดที่ 0.94 บาท ขึ้นสูงสุดที่ 1.16 บาท และลงต่ำสุดที่ 0.94 บาท มูลค่าการซื้อขาย 51.31 ล้านบาท
นายปัญจะ เสนาดิสัย กรรมการ บมจ.เคซีอี อิเลคโทรนิคส์(KCE) ราคาปรับขึ้นแรงวันนี้เนื่องจากเมื่อวานมีประชุมผู้ถือหุ้น โดยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 1/52 จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 4/51 เนื่องจากออร์เดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์เราดีขึ้นหลังคู่แข่งมีปิดกิจการไปบ้าง
"ยอดขายไตรมาส 1/52 ดีกว่าไตรมาส 4/51 แนวโน้มดีขึ้นแต่จะดีมากแค่ไหนยังบอกไม่ได้ ส่วนไตรมาส 2/52 ก็น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/52"
ชิ้นส่วนยานยนต์เราออร์เดอร์ดีขึ้นอาจจะมาจากว่าคู่แข่งเราปิดกิจการไปก็มีเป็นไปได้ ตอนนี้เราก็เป็นผู้ส่งออกผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์เราก็เป็นเบอร์ 3 ของโลก โดยออร์เดอร์ในไตรมาส 1/52 ดีกว่าไตรมาส 4/51 ที่ผ่านมาแต่จะไปเทียบกับไตรมาส 1/51 คงจะไม่ได้เพราะไตรมาส 1 ปีที่แล้วสภาวะแบบนี้ยังไม่เกิดขึ้น
ส่วนที่จะพลิกเป็นกำไรในปีนี้ได้หรือไม่จากปี 51 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 399 ล้านบาท นายปัญจะ กล่าวว่า ตอนนี้เร็วเกินไปที่จะบอกแต่ปีนี้เป็นปีที่เราต้อง cut cost และพยายามที่จะจัดเรื่อง cash flow ให้ดี ซึ่งตอนนี้เราก็จัดกับ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ไปแล้วเรียบร้อยสำหรับเรื่องการเงิน โดยยืดหนี้ออกไปเป็นระยะยาว ส่วนเรื่องกำไรหรือไม่กำไรนั้นก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด สำหรับการลดต้นทุนนั้นอย่างที่ทราบตอนนี้โรงงานเราก็ปิดไป 1 โรงแล้ว แต่ก็พร้อมที่จะเปิด
โดยปีที่แล้วปิดโรงงาน KCE International(KCEI)ไปแล้วแต่ก็เป็นการหยุดชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งก็ช่วยลดเรื่องโอเวอร์เฮดไปได้มาก และพวกอัตราของเสียเราก็พยายามจะทำให้ดีขึ้น โดยอัตราของเสียตอนนี้ลดลงจากก่อนหน้านี้
"เราเลื่อนเวลาออกไป แต่เราไม่ได้ขอลดหนี้ เป็นการเลื่อนเวลาชำระหนี้ออกไปเป็นอีก 1 ปี โดยขอผ่อนไปอีก 1 ปีแต่ดอกเบี้ยยังจ่ายตามกำหนด แต่เงินต้นขอผ่อนออกไป ทำให้เรามีสภาพคล่องดีขึ้น ตอนนี้คิดว่าทุกบริษัทส่วนใหญ่ก็จะทำแบบนี้ ปัจจุบัน cash flow ปีนี้เราก็โอเคแล้ว ปีนี้คิดว่าจัดเรียบร้อยแล้ว มีเพียงพอ"
ตอนนี้เราผลิตอยู่ 2 โรง (จากเดิมมี 3 โรง) ที่เปิดคือที่ KCE กับ KCE Technology ส่วนโรงที่ปิดไปนั้นถ้าออร์เดอร์มาเราก็พร้อมที่จะเปิด แต่ตอนี้ออเดอร์ยังไม่มา ก็ยังไม่มีกำหนดเปิด แต่ตอนนี้พนักงานที่โรงงานที่ปิดไปที่เป็นพนักงานประจำเราก็ไม่ได้ไล่ออก แต่พวกที่เป็นซับคอนแทรกเราก็ให้ออกไป (จำตัวเลขไมี่ได้โดยให้ออกไปตั้งแต่ปีที่แล้ว)
ปีนี้ตั้งเป้าปริมาณขายที่ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เงินบาทช่วงนี้อ่อนค่าเราก็จะได้ประโยชน์ เงินบาทอ่อนเมื่อไรเราก็ดีเมื่อนั้น