DTAC คงเป้ารายได้ปี 52 โต 5% ลดงบการตลาดลง 15-20% มองธุรกิจทรงตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 30, 2009 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปรีมนย์ ปิ่นสกุล ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการเงินและบัญชี บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น(DTAC)เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 5% ส่วนกำไรสุทธิทั้งปียังไม่สามารถประเมินได้ แต่ยอมรับว่าไตรมาส 1/52 กำไรสุทธิไม่ดีนัก เนื่องจากงวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทมีกำไรจากรายการพิเศษ

DTAC มองว่าธุรกิจผู้ให้บริการมือถือปีนี้เชื่อว่าจะไม่หวือหวา เนื่องจากอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือต่อจำนวนประชากร(Penetration Rate)ในประเทศไทยสูงถึง 98% แล้ว ดังนั้นการเติบโตในระดับสูงเหมือนในอดีตคงเป็นเรื่องยาก ประกอบกับ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ในปีนี้บริษัทจะไม่มีการลงทุนใดๆ ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากและจะพยายามประหยัดค่าใช้จ่าย โดยปีนี้ลดงบการตลาดลง 15-20% จากปีก่อน ซึ่งจะพยายามลดโปรโมชั่นและการโฆษณา แต่ปัจจุบันบริษัทยังต้องชำระค่าเชื่อมโยงโครงข่าย (IC) ให้คู่แข่งอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโปรโมชั่นของคู่แข่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ให้โทรภายในเครือข่ายได้ดีกว่า ขณะที่การโทรข้ามเครือข่ายก็จะราคาสูงมาก ดังนั้น ฝ่ายการตลาดจะมีการปรับปรุงโปรโมชั่นที่เน้นให้มีการโทรในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการชำระค่า IC ไม่ได้อยู่ในปริมาณที่มากจนน่าวิตก แต่หากไม่ต้องชำระจะส่งผลดีกับบริษัทมากกว่า

ส่วนการลงทุนวางเครือข่ายเพื่อรองรับระบบ 3G นั้น นายปรีมนย์ ยืนยันว่า บริษัทมีความสามารถในการลงทุนและพร้อมจะเข้าแข่งขัน โดยอาจจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อดูแลธุรกรรมนี้โดยเฉพาะ

สำหรับการขออนุมัติการซื้อหุ้นคืน นายปรีมนย์ กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นคืน แม้ว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นจะอนุมัติให้ซื้อหุ้นคืนได้ไม่เกิน 10% แต่ก็จะต้องพิจารณาจังหวะเหมาะสมที่จะส่งผลประโยชน์ต่อบริษัทอย่างแท้จริงมากกว่าแค่การพยุงราคาหุ้น

ทางด้านนายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์มือถือไม่น่าจะหวือหวา โดยเฉพาะ DTAC ก็เพิ่งรีแบนดิ้งไปเมื่อปีก่อน และปีนี้เอไอเอสมีการทำการตลาดโดยใช้โปรโมชั่นอุ่นใจ ส่วนทรูเองก็ทำตลาดด้วยการนำ iPhone เข้ามา

แต่ทาง DTAC จะเน้นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด เบื้องต้นถูกตัดงบการตลาดลงประมาณ 15-20% และจำเป็นจะต้องลดการโฆษณาและการทำโปรโมชั่นให้กับลูกค้า เพราะจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันการประหยัดค่าใช้จ่ายจะเป็นส่วนช่วยให้บริษัทเติบโตได้ และปัจจุบันนี้ Penetration Rate ตลาดเมืองไทยเกือบ 100% แล้ว คงต้องรอเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง 3G เพื่อสร้างการแข่งขัน

หากเป็นไปตามที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)ประกาศ คาดว่าจะมีการประมูลใบอนุญาต 3G ในช่วงไตรมาส 3/52 และกว่าจะเกิดการใช้งานเชิงพาณิชย์คงเป็นช่วงกลางปีถึงปลายปี 53 ดังนั้น ผู้ประกอบการคงยังไม่มีตัวสร้างรายได้ใหม่ๆ เข้ามา และทาง DTAC ไม่มีการทดสอบระบบ 3G เหมือนคู่แข่ง เพราะต้องการรอให้ชัดเจนก่อน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ