ผู้บริหาร บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)เปิดใจกับที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ ยอมรับสภาพบริษัทเข้าขั้นเป็น"มะเร็งร้าย"ลุกลามจากปัญหาที่ถูกฟ้องร้องหลายคดี โดยขณะนี้ยังมีคดีที่รอลุ้นผลการตัดสินในชั้นศาลอีก 3 คดี ซึ่งหากโชคร้ายก็อาจจะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ และอาจนำไปสู่การที่บริษัทต้องเดินเข้าแผนฟื้นฟูกิจการอีกรอบในช่วงเดือน มี.ค.53
ขณะที่บริษัทก็ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหายจากเลห์แมน บราเธอร์ส เป็นจำนวนเงิน 330 ล้านบาท เนื่องจากเลห์แมนฯ ระงับการให้เงินกู้ 180 ล้านบาทตามสัญญากู้ที่ทำไว้สำหรับใช้ดำเนินโครงการที่ จ.ภูเก็ต
นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ N-PARK กล่าวว่า หากผู้ถือหุ้นรายใดกังวลกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ก็สามารถขายหุ้นได้เมื่อมีจังหวะที่ดี แต่หากเชื่อมั่นในการบริหารงานของคณะผู้บริหารที่พร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป ก็ขอให้สนับสนุนแผนเพิ่มทุนของบริษัท
"ผมยอมรับว่าตอนนี้เราเหมือนเป็นมะเร็ง ใครที่คิดว่าเราตายแน่ๆ ถ้ามีโอกาสที่ราคาหุ้นขึ้นมาเท่าทุนก็สามารถตัดสินใจถอนการลงทุนออกไปได้ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าก็ยังมีผู้ถือหุ้นอีกกลุ่มที่มั่นใจว่าเราไปรอด ซึ่งผมว่ากลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 90% ไม่งั้นคงไม่เพิ่มทุนให้บริษัทหรอก"นายเสริมสิน กล่าวกับผู้สื่อข่าว
วันนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้อนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนตามแผนงาน โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 13,645,942,787 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้จัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.01 บาท
นายเสริมสิน กล่าวว่า ล่าสุดผู้ถือหุ้นก็ยังมองเห็นอนาคตของบริษัทจึงจัดสินใจให้บริษัททำการเพิ่มทุนที่เหลืออีก 136 ล้านบาท โดยการจัดสรรและเสนอขายผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการต่อลมหายใจ
"การที่ราคาหุ้นของบริษัทฯได้ปรับตัวลดลงไปอย่างมากที่ระดับปัจจุบัน เนื่องจากผลกระทบจากแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯไม่ผ่านและเกิดแพ้คดีความต่างๆ จากเจ้าหนี้ทำให้ต้องตั้งสำรอง แต่อย่างไรก็เป็นการติดลทางบัญชีเท่านั้น แต่เรื่องสภาพคล่องเรายังดีอยู่ โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสด 300 ล้านบาท
นายเสริมสิน กล่าวว่า สิ่งที่ผู้บริหารกำลังทำอยู่ตอนนี้ คือการเร่งรักษาและแก้ไขเพื่อไม่ให้ส่วนของทุนติดลบ เพราะเมื่อไหร่ที่ส่วนของทุนติดลบ เราอาจต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง
สาเหตุที่ทำให้ส่วนของทุนอาจติดลบในช่วงที่ผ่านมานั้น เนื่องจาก ณ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทมีส่วนของทุน 47 ล้านบาท และบริษัทฯอาจต้องตั้งเงินสำรองทั้งสิ้น 1,728 ล้านบาท แม้จะมีบางคดีที่ประนีประนอมยอมความกันแล้วก็ตาม เช่น กรณีของบริษัท ไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัย แต่ก็มีคดีของ บมจ. ธนาคารสินเอเชีย (ACL) และคดีของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ สาทร จำกัด (บบส.สาทร) ศาลตัดสินให้เราแพ้คดีและอยู่ระหว่างอุทธรณ์
รวมทั้งมีอีก 3 คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาทำให้ต้องมีการตั้งสำรองสูงเป็นจำนวนดังกล่าว
"ตอนนี้เหลืออย่างเดียวคือลุ้นเรื่องศาลอีก 3 คดี แต่ถ้าแพ้ส่วนของทุนติดลบแน่นอน แล้วเราก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง"นายเสริมสิน กล่าว
*ฟ้องเรียกค่าเสียหาย"เลห์แมน บราเธอร์ส"หลังหยุดการปล่อยเงินกู้ในโครงการ จ.ภูเก็ต
นายเสริมสิน กล่าวว่า บริษัทฯได้ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่า 330 ล้านบาท จากเลห์แมน บราเธอร์ส ที่ศาลแพ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากบริษัทได้กู้เงินจากเลห์แมนฯ 860 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนในโครงการโนโวเทล บีช รีสอร์ทพันวา ภูเก็ต แต่หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ เลห์แมน บราเธอร์สล้มละลายและสามารถจ่ายเงินกู้ที่ค้างอยู่อีก 180 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทฯชนะคดีก็จะนำเงินไปใช้ตืนหนี้ที่กู้มาจากเลห์แมนฯก่อนหน้านี้