สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ ได้นับ 1 ข้อมูล Filing ในวันที่ 30 เมษายน 2552 เนื่องจากทางบริษัทฯต้องการจะเสนอขายหุ้นสามัญ(IPO)จำนวนทั้งสิ้น 29 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 34.12% มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 15 ล้านหุ้น คิดเป็น 17.65% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดภายหลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งจะแบ่งเสนอขายจำนวน 9 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ NMG และเสนอขาย 6 ล้านหุ้นให้แก่ประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีหุ้นสามัญเดิม 14 ล้านหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)คิดเป็น 16.47% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ จะเสนอขายแก่ประชาชนเช่นกัน โดยมีบล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์ของการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการลงทุนในการออกนิตยสารฉบับใหม่ การพัฒนาสื่อใหม่ผ่านทางอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ การพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารสินค้าคงคลัง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯจะดำเนินการนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)ต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การยื่นข้อมูลไฟลิ่งแล้วมีการนับ 1 ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เป็นการยื่นข้อมูลในส่วนของ NMG ที่นำหุ้นออกมาเสนอขาย
ส่วนข้อมูลไฟลิ่งในครั้งที่แล้ว ที่มีการนับ 1 ข้อมูลไฟลิ่งเมื่อ 8 ธ.ค.2551 เป็นการยื่นข้อมูลในส่วนของ บมจ. เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ ที่ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนมาขาย IPO
บมจ. เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ เป็นบริษัทย่อยในสายธุรกิจด้านการศึกษา บันเทิง และต่างประเทศ ของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังปรับโครงสร้างในปี 2549 บริษัทฯมีการถือหุ้นในบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าจำนวน 2 บริษัท คือ บริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด(NED)ในสัดส่วน 99% และบริษัท เนชั่น เอ็กมอนท์ เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด(NEE) ในสัดส่วน 99% การประกอบธุรกิจหลักของกลุ่มแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ การผลิตและจำหน่ายพ็อคเก็ตบุ๊คส์ การผลิตและจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับเยาวชน และการเป็นตัวแทนจำหน่ายสิ่งพิมพ์ต่างประเทศ ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16.37, 50.89 และ 28.85 ของรายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯในปี 2551 ตามลำดับ
ในปี 2551 กลุ่มบริษัทฯมีรายได้รวมและกำไรสุทธิตามงบการเงินที่ตรวจสอบจำนวน 343.04 และ 34.53 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 85 ล้านบาท แบ่งเป็น 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนเรียกชำระแล้ว 70 ล้านบาท และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 85 ล้านบาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ 31 ธันวาคม 2551 คือ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ถือหุ้น 70 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 100% ภายหลังจากขาย IPO ในครั้งนี้ก็จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงมาเหลือ 56 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 65.88%
กลุ่มบริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลสำหรับบริษัท และบริษัทย่อยไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิของแต่ละบริษัท(ตามงบการเงินเฉพาะบริษัท)หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำรองตามกฎหมาย และสำรองอื่น ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสม