บล.กสิกรไทย และ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (4-7 พ.ค. 52) น่าจะแกว่งตัวผันผวนขึ้น (Sideway Up) โดยปัจจัยที่ยังคงต้องติดตาม ได้แก่ ผลการทดสอบภาวะวิกฤตภาคการเงิน (Stress Tests) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 4 พ.ค. ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการปรับตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค
ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมี.ค. และการจ้างงานเดือนเม.ย. ขณะที่ปัจจัยในประเทศที่สำคัญ คงจะต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2552 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 474 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 507 และ 530 จุด ตามลำดับ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 491.69 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.72% จาก 474.07 จุดในสัปดาห์ก่อน และพุ่งขึ้น 9.27% จากสิ้นปี 2551 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 เดือน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 20.76% จาก 85,314.64 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 67,599.27 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 17,062.93 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 16,899.82 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 3,466.17 ล้านบาท
ขณะที่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,897.52 ล้านบาท และ 1,568.64 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 163.69 จุด ขยับขึ้น 3.07% จาก 158.82 จุดในสัปดาห์ก่อน และ 0.47% จากสิ้นปีก่อน