ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงขายทำกำไร ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 16.09 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 6, 2009 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยผลการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารยักษ์ใหญ่ภายในประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูอัตราว่างงานประจำเดือนเม.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 16.09 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 8,410.65 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.44 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 903.80 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 9.44 จุด หรือ 0.54% แตะที่ 1,754.12 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.53 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.56 พันล้านหุ้น

ดาริน นิวซัม นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ DTN ในรัฐโอกลาโฮมา กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเต็มไปด้วยความระมัดระวังก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยผล stress test ของ 19 ธนาคารรายใหญ่ภายในประเทศ รวมถึงซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงก์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก

ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยผล stress test อย่างเป็นทางการนั้น หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบของสหรัฐว่า ธนาคารในราว 10 แห่งจาก 19 แห่งที่ผ่านการทดสอบ stress test อาจจำเป็นต้องเพิ่มเงินทุนมากขึ้น

บิล สโตน นักวิเคราะห์จาก PNC Wealth Management กล่าวว่า "นักลงทุนแทบจะไม่มีปฏิกริยาต่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แถลงต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นภายในปลายปีนี้ เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดพยายามออกมาสยบกระแสความวิตกกังวลในตลาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น"

นักลงทุนจับตาดูอัตราว่างงานประจำเดือนเม.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) จะร่วงลงอย่างน้อย 600,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 5 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐยังคงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ไมเคิล เกรกอรี นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets กล่าวว่า บริษัทเอกชนยังคงเลย์ออฟพนักงานและลดการใช้จ่ายเพื่อให้บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ต่อไปหรือเพียงประคองตัวให้รอดพ้นจากการล้มละลาย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่ฟื้นตัวในเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก และหากสภาวะในตลาดแรงงานยังคงตึงตัวก็อาจทำให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวผันผวน โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดบวก 4.4% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปิดลบ 4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ