หุ้น BANPU พุ่ง 5.17% มาอยู่ที่ 305.00 บาท เพิ่มขึ้น 15.00 บาท เมื่อเวลา 11.50 น.โดยเปิดตลาดที่ 293.00 บาท ขึ้นสูงสุดที่ 306.00 บาท และลงต่ำสุดที่ 293.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,017 ล้านบาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น บมจ.บ้านปู (BANPU) ปรับขึ้นแรงเช้านี้ เป็นหุ้นนำตลาดเพราะไตรมาส 2/52 อุปสงค์ถ่านหินสำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าจะสูงขึ้นเพราะเป็นช่วงฤดูร้อน มีแนวโน้มว่าวอลุ่มขายถ่านหินในไตรมาส 2/52 น่าจะเพิ่มขึ้น
"นักวิเคราะห์กำลังรีวิวอยู่เพราะถึง target แล้ว แต่ในแง่ของ story ยัง positive อยู่" น.ส.อาภาภรณ์ กล่าว
บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุแม้ว่ากำไรในไตรมาส 1/52 ควรเป็นกำไรที่สูงสุดสำหรับปี 2552 แต่เชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/52 จะยังอยู่ในระดับดี เนื่องจาก BLCP ดำเนินงานได้เต็มกำลังในช่วงฤดูร้อน,ยอดขายถ่านหินคาดว่าจะเพิ่มเป็น 4.5-4.6 ล้านตัน หรือเพิ่มเกือบ 10.0% หลังสิ้นสุดฤดูฝนในอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยหักกลบกับปัจจัยลบจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง 8.1% เหลือ 78-80 เหรียญต่อตัน และกำไรจากสัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้าที่ยังคงจะรับรู้ได้ในไตรมาสดังกล่าว
เชื่อว่ากำไรที่สูงเกินคาดจะผลักดันให้ตลาดปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอีกปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นสินค้าอุปโภคบริโภค แม้ว่าราคาหุ้นของ BANPU จะปรับตัวเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมาจนเกินราคาเป้าหมายที่ 281 บาทไปเรียบร้อยแล้ว ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากคาดว่าจะมี Upside ต่อราคาเป้าหมายจากการปรับลดสมมติฐานค่าความเสี่ยงของตลาดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ราคาถ่านหินที่สูงเกินคาด และโครงการหงสาซึ่งเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังความร้อนจากลิกไนต์จะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มต่อราคาเป้าหมายของเราอีกประมาณ 22.00 บาท