ทริสฯอาจทบทวนอันดับเครดิต THAI-MINT-CENTEL หาก H1N1 รุนแรง-ยืดเยื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 6, 2009 16:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้ง ระบุว่าการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีความรุนแรงในระดับ 5 ในขณะนี้ถือว่าส่งผลกระทบในทางลบโดยตรงต่อบริษัทในธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้ง แม้จะคาดว่าผลกระทบจากไข้หวัดใหญ่จะมีไม่มากนักต่อ บมจ.การบินไทย(THAI) บมจ.ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT)หรือ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL) แต่หากการแพร่ระบาดยังคงยืดเยื้อและความวิตกกังวลลุกลามมากขึ้น ทริสเรทติ้งอาจมีการทบทวนอันดับเครดิตเพิ่มเติม

“ทริสเรทติ้งจะเฝ้าติดตามการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากผลกระทบดังกล่าวรุนแรงและยืดเยื้อยาวนานกว่าที่คาด ทริสเรทติ้งอาจทำการทบทวนอันดับเครดิตของบริษัทเหล่านี้ต่อไป"นายวรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าว

ทริสฯ เห็นว่า การแพร่ระบาดเกิดในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งไม่ใช่ฤดูการท่องเที่ยว หากมีการควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดใหญ่ A/H1N1 ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนเช่นเดียวกับประสบการณ์ในปี 2546 ที่มีการแพร่ระบาดของโรคซาร์สและไข้หวัดนก ก็เชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้จะกลับฟื้นตัวในไม่ช้า

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวางจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีปัญหาความขัดแย้งมาตั้งแต่ปลายปี 2551 จนกระทั่งถึงกลางเดือนเมษายน 2552 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการจราจลในกรุงเทพฯ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล

คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 2/52 จะยังคงลดลงจากปีก่อน ซึ่งต่อเนื่องจากตัวเลขที่ลดลงในไตรมาสแรกของปี 52 ไปแล้วถึง 15% และยังคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปีจะเติบโตในอัตราติดลบ ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงมองว่าผลประกอบการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวจะยังคงอ่อนตัวต่อไป

นายวรภัทร กล่าวว่า การบินไทย น่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ A/H1N1 เนื่องจากรายได้จากผู้โดยสารประมาณ 41% ของบริษัทมาจากเที่ยวบินในยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยก่อนหน้านี้การแพร่กระจายของโรคซาร์สในปี 46 ทำให้ปริมาณผู้โดยสารในช่วงไตรมาสที่ 2/46 ลดลงประมาณ 33.17% แต่ปริมาณผู้โดยสารก็กลับคืนสู่ระดับปกติอย่างรวดเร็วเมื่อความเชื่อมั่นกลับคืนมา ทำให้ปริมาณผู้โดยสารในปี 46 ลดลงเพียง 7.38% จากปีก่อน

ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งประกอบด้วย MINT และ CENTEL แม้ว่าบริษัททั้ง 2 แห่งจะมีรายได้จากการประกอบธุรกิจอาหารจานด่วนในสัดส่วนถึง 50%-60% แต่รายได้ในส่วนนี้ก็ไม่สามารถทดแทนรายได้จากธุรกิจโรงแรมที่ตกลงไปได้ ทั้งนี้ อัตราการเข้าพักโรงแรมของทั้ง 2 บริษัทตกลงประมาณ 20% ในไตรมาส 1/52 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้รายได้จากธุรกิจโรงแรมในไตรมาสนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันในปีก่อน

ขณะนี้ ทริสเรทติ้งกำลังติดตามตรวจสอบผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจโลก และการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ A/H1N1 ที่อาจมีต่ออันดับเครดิตของผู้ประกอบการทั้งสองอย่างใกล้ชิด

นอกเหนือจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว ธุรกิจการเกษตรก็ได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยาจากไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวในระยะสั้นๆ โดยที่อันดับเครดิตของ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เนื้อสุกรเพียง 10% เท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทยังอาจได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ที่ปรับเปลี่ยนจากสินค้าเนื้อสุกรไปเป็นสินค้าโปรตีนประเภทอื่นแทน

ทริสเรทติ้งเชื่อว่าประสบการณ์จากโรคซาร์สในปี 46 ทำให้รัฐบาลของแต่ละประเทศทั่วโลกมีความพร้อมและสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การควบคุมการแพร่ระบาดจึงน่าจะมีประสิทธิภาพ และผลกระทบโดยรวมต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ไม่น่าจะรุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอาจไม่ดีเท่ากับในปี 46 เนื่องจากในครั้งนี้มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและปัญหาการเมืองภายในประเทศผนวกเข้ามาด้วย พร้อมกันนั้น



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ