TVO ตั้งเป้าปี 52 รักษากำไรใกล้เคียงปีก่อน แม้รายได้ลดเหลือ 2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 7, 2009 10:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO)คาดกำไรสุทธิปี 52 จะใกล้เคียงปีก่อนที่มี 750 ล้านบาท จากการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงปีก่อนในระดับ 9-12% แม้ว่ารายได้ปี 52 จะลดลงเหลือประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มี 2.4 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากราคาขายปรับตัวลดลงตามราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 50% หรืออีก 2 พันตัน/วัน จาก 4 พันตัน/วัน จะเริ่มเดินเครื่องได้ในไตรมาส 3/53

นายวิบูลย์ โลหะชุนสิริ ผู้จัดการอาวุโสแผนกพัฒนาธุรกิจ TVO ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 52 ราคาวัตถุดิบสำคัญ คือ ถั่วเหลือง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 90% ของต้นทุนทั้งหมด ปรับราคาลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ราคาขายผลิตภัณฑ์น้ำมันพืชในประเทศปรับตัวลดลงตาม ทำให้รายได้ในปีนี้อ่อนตัวลงมาระดับที่ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทยังคงผลิตและขายปริมาณเท่ากับปีก่อนที่ 1 ล้านตัน/ปี

"ภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้เราไม่ค่อยได้รับผลกระทบมาก เพราะเราอยู่ในธุรกิจอาหาร รายได้ลดลงไปก็จริง แต่ GP (Gross Profit Margin)คิดว่าใกล้เคียงกับปีก่อน คงจะได้ 9-12% ก็น่าจะทำให้กำไรปีนี้ออกมาน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว"นายวิบูลย์ กล่าว

ทั้งนี้ ราคากากถั่วเหลืองในประเทศปรับลงมาที่ประดับ 16 บาท/กก.จากปีก่อนขายได้กว่า 20 บาท/กก.และน้ำมันพืชบรรจุดขวด ลิตรละ 42-43 บาท ต่ำกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 49.90 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นราคาเต็มเพดานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยมาร์จิ้นของกากถั่วเหลืองดีกว่าน้ำมันพืช

นายวิบูลย์ กล่าวว่า รายได้จากกากถั่วเหลืองมีสัดส่วน 65% ส่วนอีก 35% มาจากการขายน้ำมันพืช ซึ่งในส่วนนี้บรรจุขวดขายภายใต้ชื่อ"องุ่น"สัดส่วน 40% นอกนั้นนำไปขายกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในตลาดกากถั่วเหลือง 70% ส่วนน้ำมันพืชบบรจุขวด"องุ่น"มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์ครองส่วนส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/52 คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/52 ตามราคาและปริมาณขายสูงขึ้น โดยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009(H1N1 FLU)มีผลกระทบราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกระยะสั้น โดยปัจจุบันราคาอยู่ที่ 9.83 เหรียญ/บุชเชลจากเดือนก่อน(มี.ค.)ราคาขึ้นไปถึง 10.72 เหรียญ/บุชเชล เนื่องจากซัพพลายตึงตัว

*ประเมินราคาถั่วเหลืองโลกช่วง 6 เดือนไม่หวือหวา

นายวิบูลย์ คาดว่า ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะอยู่ในช่วง 9-11 เหรียญ/บุชเชล ซึ่งถือว่ากลับมาอยู่ในภาวะปกติ จากปีที่แล้วที่ผันผวนค่อนข้างมาก โดยในไตรมาสแรกสถานการณ์ด้านซัพพลายตึงตัว เพราะอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับสามของโลก มีเหตุการณ์เกษตรกรประท้วงและภาวะแล้ง จึงไม่มีการซื้อขาย

ดังนั้น จึงเหลือผู้ผลิตรายใหญ่อันดับหนึ่งและสองคือ สหรัฐ และบราซิล ขณะที่ดีมานด์ดีขึ้น ทำให้ราคาถั่วเหลืองกระเตื้องขึ้นมาแตะ 10.72 เหรียญ/บุชเชล แต่เมื่อ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเริ่มปรับลงจากความตื่นตระหนกผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารสตว์จากการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือที่เคยเรียกว่าไข้หวัดหมู ทำให้ราคาปรับลดลงมาบ้าง "เป็นเรื่องจิตวิทยา เพราะคนกังวลเรื่องโรคระบาด ไม่กล้ากินหมู แต่ก็ยังกินไก่ได้ ดีมานด์ไม่ได้รับผลกระทบ ผมคิดว่าเรื่องนี้กระทบช่วงสั้น....ผมเห็นว่าราคาทรงตัว เชื่อว่าราคาจะไม่ลงไปมากกว่าปลายปีที่แล้ว ดูแล้วมี downside risk น้อย หรือ แนวโน้ม upside มากกว่า ก็เชื่อว่ามาร์จิ้นน่าจะ maintain ได้"นายวิบูลย์ กล่าว ทั้งนี้ คาดว่าในช่วครึ่งปีหลังราคาถั่วเหลืองน่าจะฟื้นตัวได้ชัดเจน เนื่องจากราคาซื้อขายล่วงหน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 12-12.5 เหรียญ/บุชเชล แต่ภาพรวมราคางในปีนี้คงไม่สูงเท่าปีก่อนที่ปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 16.5 เหรียญ/บุชเชลในเดือนก.ค.51 และเริ่มลดลงในไตรมาส 4/51 จากที่มีปัญหาวิกฤติการเงิน ทำให้ราคาร่วงลงมาแตะต่ำสุดที่ 7.80 เหรียญ/บุชเชล เป็นผลให้บริษัทขาดทุนสต็อกสินค้าคงคลังในไตรมาส 4/51 ซึ่งในปีนี้คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้

*โครงการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 50% เริ่มผลิต Q3/53

นายวิบูลย์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตทั้งในส่วนของน้ำมันพืชและกากถั่วเหลืองเพิ่มอีก 50% เป็น 6 พันตัน/วัน คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องในส่วนขยายได้ในไตรมาส 3/53 ดังนั้น คาดว่าหลังจากทั้งรายได้จะดีขึ้นตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกำไรจะดีขึ้นมาก เนื่องจากส่วนขยายได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบัตรส่งเสริมการลงทุน

ทั้งนี้ โครงการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ใช้เงินลงทุน 1.7 พันล้านบาท โดยปีนี้จะลงทุน 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนลงทุนไปแล้ว 400 ล้านาท และในปี 53 ลงทุนอีก 300 ล้านบาท แหล่งเงินทุนช่วงต้นจะมาจากเงินกู้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการแปลงสิทธิวอแรนท์(TVO-W2)ที่คาดจะมีการใช้สิทธิในปลายปีนี้ราว 1 พันล้านบาทมาใช้คืน และส่วนอีก 700 ล้านบาทจะเป็นเงินกู้ อายุ 3 ปี

อนึ่ง TVO จัดสรรร TVO-W2 ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 124.9 ล้านหน่วย มีอายุ 3 ปี (19 พ.ค.52-18 พ.ค.55) โดยราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ 8.90 บาทต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ